แจกไฟล์ วิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ แก้ปัญหาพฤติกรรมนักเรียน Doc

วิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ

ถ้าหากพูดถึง การวิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ แล้วนั้น หลายคนอาจกล่าวได้ว่า วิจัยในชั้นเรียน คือ เป็นการวิจัยที่ครูทำเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของผู้เรียนบางคน บางกลุ่ม หรือทั้งหมด ซึ่งผลการวิจัยสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงการเรียน การสอน และพฤติกรรมของผู้เรียน โดยมีกระบวนการวางแผน ปฏิบัติตามแผน สังเกตผลที่เกิดขึ้น และการสะท้อนความคิด

การวิจัยในชั้นเรียน หมายถึงการวิจัยที่ทำในบริบทของชั้นเรียน และมุ่งนำผลการวิจัยมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนของตน เป็นการนำกระบวนการวิจัยไปใช้ในการพัฒนาครูให้ไปสู่ความเป็นเลิศ และมีอิสระทางวิชาการ

       จากที่กล่าวมานี้สรุปได้ว่า การวิจัยในชั้นเรียนเป็นการวิจัยที่ครูทำเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในห้องเรียนของผู้เรียนบางคน บางกลุ่ม หรือทั้งหมด ซึ่งผลการวิจัยสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงการเรียน การสอน และพฤติกรรมของผู้เรียน โดยมีกระบวนการวางแผน ปฏิบัติตามแผน สังเกตผลที่เกิดขึ้น และการสะท้อนความคิด

วันนี้ เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม มีของฟรีมาแจกอีกแล้ว เป็นไฟล์แก้ไขได้ วิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ ระดับชั้นอนุบาล – ป.6 ถ้าหากวิจัยในชั้นเรียนทุกชั้น ที่ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ก็คงต้องรออีกสักระยะ แอดมินหวังว่าจะพยายามหามาให้ครบ และสามารถนำไปใช้ต่อ ยอดหรือพัฒนารูปแบบได้อีกแน่นอน

วิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ
วิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ
วิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ
วิจัยในชั้นเรียน ใหม่ๆ

<<<< ดาวน์โหลดวิจัยในชั้นเรียน>>>>

สามารถดาวน์โหลดตัวอย่างงานวิจัยในชั้นเรียนทั้งหมดกว่า 250 เรื่องได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ครับ

ดาวน์โหลดเพิ่มเติมอีก 250 เรื่อง

ผู้จัดทำและเรียบแรง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
เชิญติดตาม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

ตัวอย่างนวัตกรรมการอ่านออกเขียนได้

ตัวอย่างนวัตกรรมการอ่านออกเขียนได้

“นวัตกรรมทางการศึกษา”  หมายถึง สิ่งประดิษฐ์หรือวิธีการใหม่ ๆ  หรือปรับปรุงของเก่าให้เหมาะสม โดยมีการทดลองหรือพัฒนาจนเป็นที่น่าเชื่อถือได้ว่าจะมีผลดีในทางปฏิบัติสามารถนำไปใช้ในระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นวัตกรรมสามารถจัดทำได้หลายรูปแบบ   เช่น
– แผนการสอน
– ชุดการสอน
– คู่มือครู
–  บทเรียนสำเร็จรูป
–  สไลด์
– ใบความรู้
–  สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ
–  เกม
***ทุกรูปแบบต้องมีคู่มือในการใช้สื่อด้วย

ขอบคุณภาพจาก www.matichon.co.th

สวัสดีครับท่านผู้อ่านและผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาในเรื่องการเรียนการสอน เช่น ปัญหาเรื่องวิธีการสอน ปัญหาด้านเนื้อหาวิชา ปัญหาเรื่องอุปกรณ์การสอน เป็นต้น ที่สามารถดึงดูดความสนใจของนักเรียน ถ่ายทอดความรู้ให้นักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความประทับใจที่ยั่งยืน หรือแนวคิดที่จะช่วยให้คุณครูคิดค้นวิธีการสอน ทำให้ห้องเรียนที่แสนธรรมดา กลายเป็นห้องเรียนที่น่าสนใจในสายตานักเรียนมากยิ่งขึ้น

วันนี้กระผม เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ได้รวบรวม สื่อ นวัตกรรม แก้ไขปัญหาการอ่านออกเขียนได้มาให้เป็นแนวทางสำหรับคุณครูหลายๆท่านที่กำลังจะนำไปใช้กับผู้เรียนให้เกิดผลได้อย่างจริงจัง และสามารถพัฒนาไปเป็นประเด็นท้ายทายในการจัดทำ แบบบันทึกข้อตกลงการพัฒนางานตาม วPA (Performance Agreement :PA) ซึ่งเป็นจุดเน้นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ โดยมีการจัดทำโครงการเพื่อการดำเนินงานจากนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมชัดเจนของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษารวมทั้งสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาด้านการอ่านออกเขียนได้ให้เป็นแนวทางเดียวกัน ในการการเร่งรัดพัฒนาการอ่านการเขียนได้อ่านคล่องเขียนคล่องและสื่อสารได้

ในที่นี้จึงขอยกตัวอย่างวิธีการสอนภาษาไทยจากง่ายไปยากตามขั้นตอนที่ครูจำนวนมากเห็นว่าได้ผลและเป็นพื้นฐานที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นบทความของนายบุญเสริม แก้วพรหม ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 4 มาเป็นแนวทางให้ อาจจะเป็นอีกวิธีที่ดีที่สุดในการสอนภาษาไทยให้อ่านออกเขียนได้ คือ การสอน สะกดคำ แจกลูก ท่องจำ และไล่หนังสือ และต้องอาศัยการเรียนการสอนแบบ “ฝึก ซ้ำ ย้ำ ทวน”

ตัวอย่างนวัตกรรมใหม่

ลำดับขั้น ในการสอนให้อ่านออกเขียนได้ประกอบด้วย

1. สอนให้รู้จักพยัญชนะ
2.สอนให้รู้จักสระ
3.สอนให้สะกดคำแจกลูกในแม่ ก กา
4. สอนให้ผันวรรณยุกต์คำในแม่ ก กา
5. สอนให้อ่านเขียนคำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา
6. สอนให้ผันวรรณยุกต์คำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา
7. สอนให้อ่านเขียนคำที่สะกดไม่ตรงมาตรา
8. สอนให้อ่านเขียนคำควบกล้ำ
9. สอนให้อ่านเขียนคำที่มีอักษรนำ
10. สอนให้อ่านเขียนคำที่มีตัวการันต์ ฤ ฤา ฦ ฦา และคำที่มีลักษณะพิเศษ

ดาวน์โหลดนวัตกรรม
ดาวน์โหลดนวัตกรรม
นายบุญเสริม แก้วพรหม

และอีก 1 แนวทาง ตัวอย่างนวัตกรรมการอ่านออกเขียนได้ เพื่อพัฒนาให้อ่านคล่องเขียนคล่อง ด้วยการฝึกการอ่านเขียนมีครูกำกับโดยให้แบบฝึกทักษะและวิธีการสอน ในที่นี้ ขอเสนอเกณฑ์การอ่านคล่องเขียนคล่อง โดย นางนงเยาว์ แข่งเพ็ญแข ข้าราชการบำนาญ อดีตนักวิชาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ อาจใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานพัฒนาการอ่านคล่องเขียนคล่อง ดังนี้

เกณฑ์การอ่านคล่อง – เขียนคล่อง เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบพัฒนาทักษะภาษาไทยที่ผู้เขียนสร้างขึ้นเอง รูปแบบการพัฒนาได้กำหนดทักษะภาษาที่จะต้องสอนแต่ละชั้นได้แล้ว จึงจัดทำเกณฑ์วัดความสามารถในการอ่านด้วยเพื่อใช้ประเมินความสามารถในการอ่านและตามรูปแบบการพัฒนาทักษะภาษาดังกล่าว วิธีวินิจฉัยความสามารถในการอ่านก่อนดำเนินการวินิจฉัยความสามารถในการอ่านครูควรเข้าใจคำ 2 คำ คือการอ่านออกเสียงและเครื่องมือวินิจฉัยความสามารถในการอ่าน

ดาวน์โหลดตัวอย่างนวัตกรรมการอ่าน
ดาวน์โหลดตัวอย่างนวัตกรรมการอ่าน

1. ใช้การอ่านออกเสียงเป็นเครื่องมือในการวินิจฉัย เนื่องจากการอ่านออกเสียงเป็นหน้าต่างเปิดไปสู่ความเข้าใจกระบวนการอ่านดังนั้นในการวินิจฉัยความสามารถในการอ่านสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาจึงใช้การอ่านออกเสียง  

2. เครื่องมือในการวินิจฉัยการอ่านจะมี 2 ชนิดคือ 
1) แบบทดสอบมาตรฐานเพื่อวัดความสามารถในการอ่านออกเสียงเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อการวิจัยเท่านั้น
2) แบบทดสอบการอ่านที่ครูทำขึ้นเป็นแบบทดสอบที่ครูคิดทำขึ้นเองซึ่งการวินิจฉัยการอ่านคล่องในที่นี้เสนอให้ผู้บริหารทำแบบทดสอบเองซึ่งอาจทำได้ 2 รูปแบบคือแบบสำรวจการอ่านและแบบสำรวจข้อผิดพลาดในการอ่านซึ่งทั้งสองประการนี้สามารถดำเนินการไปพร้อมๆกันได้ ตัวอย่างนวัตกรรมการอ่านออกเขียนได้

ตัวอย่างนวัตกรรมไทย

สรุปกฎหมายการศึกษา

สรุปกฎหมายการศึกษาทำได้ดีมาก

วันนี้ผมขอนำเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการศึกษามาสรุปให้ท่านผู้อ่านได้เกิดความเข้าใจถึงการปฎิบัติงานต่างๆของการศึกษาในยุคปัจจุบัน ที่ต้องนำกฏหมายมาใช้ประกอบการทำงาน เพื่อใช้เพื่อปกป้องตัวเราเอง และการทำงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด ดังนั้น การใช้งานกฏหมายที่เป็นกฎเกณฑ์ที่รัฐกำหนดขึ้น เพื่อบังคับให้มีการประพฤติปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ของข้าราชการครู หากผู้ใดละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามก็จะได้รับโทษ และเป็นเรื่องที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและการดำเนินงานของทุกคน โดยเฉพาะผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการศึกษา ย่อมต้องใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานด้วย

กฎหมายการศึกษา2
กฎหมายการศึกษา

ความสำคัญของกฎหมายการศึกษา
การดำเนินงานทางการศึกษา เป็นบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้คนเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นฝ่ายจัดการศึกษา ฝ่ายรับบริการทางการศึกษา และฝ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ โดยบุคคลดังกล่าว ต้องปฏิบัติและดำเนินงานตามบทบาทหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ดังนั้นกฎหมายจึงมีความสำคัญต่อการดำเนินงานทางการศึกษากล่าวได้ ดังนี้

1. กฎหมายเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานจัดการศึกษาของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถจัดการศึกษาเป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายได้
2. กฎหมายการศึกษาเป็นกรอบการดำเนินงานที่ช่วยให้การบริหารการศึกษาเป็นไปอย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้รับบริการและสังคม
3. กฎหมายการศึกษาช่วยให้สามารถใช้การศึกษาพัฒนาเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
4. กฎหมายการศึกษาทำให้ประชาชนของประเทศเกิดสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษา ทำให้สามารถปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ได้อย่างเหมาะสมด้วยบทบาท ดังกล่าว กฎหมายและกฎหมายการศึกษาจึงมีความสำคัญในฐานะเป็นเครื่องมือดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษาของชาติ หากขาดกฎหมายแล้วอาจทำให้การจัดการศึกษาไม่บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายได้

ลักษณะของกฎหมายการศึกษา
กฎหมายการศึกษาเป็นกฎหมายชนิดหนึ่ง ซึ่งต้องมีลักษณะของกฎหมายเช่นเดียวกับกฎหมายทั่วๆ ไปกล่าวคือ กฎหมายเป็นกฎเกณฑ์ที่กำหนดความประพฤติของบุคคล ซึ่งผู้มีอำนาจในประเทศกำหนดขึ้นและใช้บังคับให้ผู้ที่อยู่ในสังกัดประเทศนั้นถือปฏิบัติตาม มีลักษณะสำคัญประกอบด้วย (มานิตย์ จุมปา, 2548)

1) ต้องมีลักษณะเป็นกฎเกณฑ์ที่ใช้บังคับเป็นมาตรฐานของสังคม
2) ต้องเป็นการกำหนดความประพฤติของบุคคล
3) ต้องมีสภาพบังคับ
4) ต้องมีกระบวนการที่แน่นอนในการดำเนินการ ให้เป็นไปตากฎ กฎเกณฑ์ในกฎหมาย
สำหรับกฎหมายที่ใช้ในประเทศไทย ตามรูปแบบเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษร กำหนดตามศักดิ์ของกฎหมายได้ ดังนี้

รัฐธรรมนูญ

1. รัฐธรรมนูญ
2. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
3. พระราชบัญญัติ
4. พระราชกำหนด
5. พระราชกฤษฎีกา
6. กฎกระทรวง
7. กฎหมายที่ตราขึ้นโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ลำดับศักดิ์กฎหมายการศึกษาไทย
ลำดับศักดิ์กฎหมายการศึกษาไทย

นอกจากรูปแบบของกฎหมายดังกล่าวแล้ว กฎหมายยังสามารถแบ่งเป็นประเภทต่างๆ ได้หลายลักษณะ ตามหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่งประเภท เช่น หลักแหล่งกำเนิดของกฎหมาย หลักสภาพการบังคับของกฎหมาย หลักการใช้กฎหมาย หลักฐานะและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน เป็นต้น โดยทั่วไปแล้วการ
แบ่งประเภทของกฎหมายจะยึดหลักฐานะและความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนเป็นเกณฑ์ ซึ่งแบ่งประเภทกฎหมายออกเป็นกฎหมายมหาชน และกฎหมายเอกชน กล่าวคือ

1) กฎหมายมหาชน คือ กฎหมายที่กำหนดสถานะและนิติสัมพันธ์ระหว่างรัฐหรือหน่วยงานของรัฐกับเอกชน หรือหน่วยงานของรัฐด้วยกัน ในฐานะที่รัฐหรือหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ปกครอง เช่น กฎหมายอาญา กฎหมายปกครอง และกฎหมายการคลัง เป็นต้น
2) กฎหมายเอกชน คือ กฎหมายที่กำหนดสถานะและนิติสัมพันธ์ระหว่างเอกชนต่อกัน ในฐานะผู้อยู่ใต้ปกครองที่ต่างฝ่ายต่างก็เท่าเทียมกันกล่าวโดยเฉพาะกฎหมายการศึกษา ก็จะหมายถึงกฎเหณฑ์ที่รัฐหรือผู้มีอำนาจกำหนดขึ้น เป็นกฎข้อบังคับ การปฏิบัติเกี่ยวกับการบริหารและจัดการศึกษา โดยมีรูปแบบทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง รวมทั้งข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง ที่ใช้บังคับในการดำเนินงานทางการศึกษา และมีลักษณะเป็นกฎหมายมหาชนในสาชากฎหมายปกครอง เนื่องจากกฎหมายการศึกษาส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับเอกชน และระหว่างองค์กรของรัฐด้วยกัน

เช่น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ .ศ.2546 พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ พ.ศ.2643 กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุเด็ก เพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินเทียบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและการศึกษาระดับอุดมศึกษาต่ำกว่าปริญญา พ.ศ.2546 เป็นต้น


การจำแนกประเภทกฎหมายการศึกษา
กฎหมายการศึกษาไทย สามารถจำแนกเป็นประเภทได้หลายลักษณะตามหลักเกณฑ์ที่นำมาใช้ในการจำแนก กล่าวคือ หากจำแนกตามศักดิ์ของกฎหมายสามารถแบ่งประเภทออกเป็น
1) กฎหมายแม่บท ได้แก่ รัฐธรรมนูญ
2) กฎหมายลูกบท ได้แก่ กฎหมายที่ออกตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
หากจำแนกตามลักษณะการออกกฎหมาย สามารถแบ่งประเภทออกเป็น
1) กฎหมายหลัก ได้แก่ กฎหมายที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติ ประกอบด้วย พระราชบัญญัติต่างๆ
2) กฎหมายรอง ได้แก่ กฎหมายที่ออกโดยฝ่ายบริหาร ซึ่งอาศัยอำนาจตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายหลัก ประกอบด้วย กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับ เป็นต้น

ในที่นี้จะขอจำแนกประเภทตามลักษณะสาระสำคัญของกฎหมาย ซึ่งสามารถแบ่งกฎหมายการศึกษาออกเป็น ๕ ประเภท ดังนี้
1. กฎหมายแม่บททางการศึกษา ได้แก่ รัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่ให้อำนาจในการออกกฎหมายการศึกษาอื่นๆ ได้แก่
1.1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
1.2 พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545
1.3 พระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545
2. กฎหมายว่าด้วยการจัดการโครงสร้างและการบริหารจัดการทางการศึกษา ได้แก่
2.1 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 และกฎกระทรวง ระเบียบที่ออกตามพระราชบัญญัติฉบับนี้
2.2 พระราชบัญญัติว่าด้วยการบริหารจัดการศึกษาเฉพาะด้าน เช่น พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ.2550 พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 พระราชบัญญัติการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และพระราชบัญญัติจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 เป็นต้น
2.3 พระราชบัญญัติจัดตั้งสถานศึกษาเป็นการเฉพาะแห่ง เช่น พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฎ พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เป็นต้น
3. กฎหมายว่าด้วยการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ได้แก่ พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 และกฎกระทรวง ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่งที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้
4. กฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลทางการศึกษา ได้แก่
4.1 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551
4.2 พระราชบัญญัติเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจำตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547
4.3 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547
4.4 พระราชกฤษฎีกา การปรับอัตราเงินเดือนของข้าราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2550
5. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการศึกษา ได้แก่ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการศึกษาที่ผู้บริหารการศึกษาและผู้เกี่ยวข้องจะต้องนำมาใช้ประกอบการดำเนินงาน กล่าวคือ
5.1 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
5.2 พระราชบัญญัติความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
5.3 พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2550
5.4 พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
5.5 พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
5.6 พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546

พรบ.คุ้มครองเด็ก
พรบ.คุ้มครองเด็ก2546

การบังคับใช้กฎหมายการศึกษา
การใช้กฎหมาย (Application of Law) มีความหมายสองประการ คือ
1) การใช้กฎหมายในทางทฤษฎี เป็นการนำกฎหมายไปใช้แก่บุคคลในเวลาและสถานที่หรือตามเหตุการณ์หรือเงื่อนไข ในเวลาหนึ่งๆ ซึ่งจะสัมพันธ์กับเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นๆ
2) การใช้กฎหมายในทางปฏิบัติ เป็นการนำกฎหมายไปปรับใช้แก่คดี หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเจาะจง เพื่อหาคำตอบหรือเพื่อวินิจฉัยพฤติกรรมของบุคคลหนึ่งในเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งเรียกว่าการปรับใช้บทกฎหมาย การใช้กฎหมายในทางปฏิบัติ ต้องทำด้วยความระมัดระวังเพราะอาจตีความผิด หรือนำเอาบทบัญญัติที่เป็นข้อยกเว้นมาใช้ โดยลืมนึกถึงส่วนที่เป็นหลักเมืองหรือนำเอาส่วนที่เป็นหลักมาใช้ โดยไม่รู้ว่าเป็นข้อยกเว้น (วิษณุ เครืองาม, 2538)

อย่างไรก็ตามนักบริหารการศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบดำเนินงานให้องค์การบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ จะต้องเลือกใช้กฎหมายอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นๆ ซึ่งมีแนวทางพอสรุปได้ ดังนี้

1. ผู้บริหารการศึกษาต้องรู้กฎหมายเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของตน เข้าใจ และสามารถปรับกฎหมายใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
2. ผู้บริหารการศึกษาต้องมีความสุจริตในการปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นเจตนาที่ดีในการปฏิบัติงานตามแนวทางที่กฎหมายกำหนดไว้
3. ผู้บริหารการศึกษาต้องถือกฎหมายเป็นเครื่องมือในการบริหารงานไปสู่ความสำเร็จ กฎหมายไม่ใช่สิ่งขัดขวางการปฏิบัติงาน ดังนั้นผู้บริหารการศึกษาจะต้องเฉลียวฉลาด และมีไหวพริบเพียงพอที่จะใช้กฎหมายให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารและจัดการศึกษาให้ได้

การใช้กฎหมายในการบริหารและจัดการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้บริหารการศึกษาจะต้องมีความรอบรู้ และเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบทบาทหน้าที่ มีความสุจริตและมีไหวพริบที่จะใช้กฎหมายตามเจตนารมณ์อย่างแท้จริง

เรียบแรงโดย ครูไทยฟรีดอทคอม

#Rich #Snippet

ดาวน์โหลดและติดตั้ง 13 ฟอนต์ราชการ

ดาวน์โหลดและติดตั้ง 13 ฟอนต์ราชการ

สำหรับหน่วยงานราชการที่ต้องมีการใช้ในการเขียนหนังสือราชการที่ถูกต้องตามระเบียบ เพื่อติดต่อกับทางราชการนั้น Font ที่ใช้งานก็ต้องเป็น “ฟอนต์มาตรฐาน” “TH Sarabun PSK” หรือ “Thai Sarabun New” ที่ใช้งานอย่างเป็นทางการในราชการไทย ดังนั้นโครงการ”ฟอนต์มาตรฐานราชการไทย” โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) ได้จัดโครงการประกวดผลงานสร้างสรรค์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ฟอนต์ และได้มีการพลักดันให้ TH Sarabun PSK เป็น ฟอนต์ราชการ

ซึ่งฟอนต์มาตรฐานทั้งหมดแล้วจะมีด้วยกันจำนวน 13 ฟอนต์ราชการไทย นั้นคือ

1. TH-Sarabun PSK, New2. TH-Charmonman3. TH-Krub
4. TH-Srisakdi5. TH-Niramit AS6. TH-Charm of AU
7. TH-Kodchasal8. TH-K2D July89. TH-Mali Grade 6
10. TH-Chakra Petch11. TH-Baijam12. TH-KoHo
13. TH-Fah Kwang 
ดาวน์โหลดฟอนต์ราชการไทย

วิธีติดตั้งฟอนต์ราชการ TH Sarabun PSK/NEW

ขอขอบคุณคลิปวีดีโอการสอนติดตั้งฟอนต์ตัวอักษรจาก น้องไอทีดอทคอม

แบบฟอร์มหนังสือราชการ ถูกต้องตามระเบียบ

แบบฟอร์มหนังสือราชการ

วันนี้เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม จะขอนำ แบบฟอร์มหนังสือราชการต่างๆ การเขียนหนังสือราชการเพื่อติดต่อสื่อสาร ซึ่งการสื่อสารทุกวันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง หากมีการสื่อสารที่ไม่ถูกต้องของผู้ส่งสาร และผู้รับสาร อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาก็เป็นได้ การเขียนหนังสือจึงมีความสำคัญและจำเป็นค่อนข้างมากสำหรับผู้ที่เป็นข้าราชการในหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานราชการในสังกัดอื่นๆ ที่ขาดแคลนทรัพยากรบุคคลที่มีความชำนาญในงานสารบรรณ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ทางเว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอมจึงคิดว่าเราจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับร่างโต้ตอบหนังสือได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ในการเขียนหนังสือราชการจะต้องคำนึงถึงแนวทางในการเขียนหนังสือราชการสิ่งที่พึงปฏิบัติคือ

1. ยึดถือตามระเบียบ (ยึดรูปแบบ ตามที่ระเบียบกำหนด)
2. ยึดหลักปฏิบัติตามองค์กร(วัฒนธรรมของแต่ละองค์กร)
3. ยึดหลักนโยบายขององค์กรเช่น กรณีการเรียงหนังสือเสนอผู้บังคับบัญชา ให้จัดเรียงหนังสือฉบับจริงขึ้นก่อน ตามด้วยสำเนาคู่ฉบับ ( หรือ เช่น หนังสือฉบับจริงและคู่ฉบับจัดเรียงเสนอคนละหน้าไม่ให้เรียงซ้อนกัน ติด “ โปรดลงนาม “ทุกแผ่นที่จะให้ผู้บังคับบัญชาลงนาม พร้อมแนบเรื่องเดิมหรือ กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น)

แบบฟอร์มหนังสือราชการ

แบบฟอร์มหนังสือราชการ พร้อมใช้งาน

ซึ่งในปัจจุบันการติดต่อราชการทั้งภายนอกหน่วยงานและภายในหน่วยงานเป็นการสื่อถึงบุคคล/หน่วยงาน และยังเป็นปัญหาของหน่วยงานและฝ่ายปฏิบัติที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ที่ยังไม่เข้าใจในการใช้ภาษาราชการ รูปแบบตัวอักษร (font) และแบบฟอร์มที่ถูกต้อง ซึ่งปัจจุบันใช้ฟอร์น TH Sarabun New , TH Sarabun PSK เพื่อเป็นการยึดตามระเบียบ ความถูกต้องของผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทางด้านหนังสือได้ทราบถึงรูปแบบ การใช้คำขึ้นต้น คำลงท้ายที่ถูกต้อง เป็นไปในแนวทางเดียวกันและเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 ได้จำแนกหนักสือราชการไว้มี 6 ชนิด

<<<<<ดาวน์โหลดแบบฟอร์มหนังสือราชการทั้งหมด>>>>>

1. หนังสือภายนอก คือ หนังสือติดต่อราชการที่เป็นแบบพิธีการ ใช้ติดต่อระหว่าง ส่วนราชการ หรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอื่นที่มิใช่ส่วนราชการ หรือมีถึงบุคคลภายนอก ใช้กระดำษครุฑ

หนังสือภายนอก

2.หนังสือภายใน คือ หนังสือติดต่อราชการที่เป็นแบบพิธีการน้อยกว่าหนังสือภายนอก ใช้ติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือภายในโรงเรียนเดียวกัน ใช้กระาษบันทึกข้อความ

หนังสือราชการครูไทยฟรี
หนังสือภายใน

3. หนังสือประทับตรา คือ หนังสือที่ใช้ประทับตราแทนการลงชื่อของหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมขึ้นไป โดยให้หัวหน้าส่วนระดับกอง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ที่รับผิดชอบและลงชื่อย่อกับตรา ใช้กระดาษครุฑ

หนังสือประทับตรา

4.  หนังสือสั่งการ มี 3 ชนิด ได้แก่ คำสั่ง ระเบียบ และข้อบังคับ
 –  คำสั่ง คือ บรรดาข้อความที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมาย ให้ใช้กระดาษตราครุฑ
–  ระเบียบ คือ บรรดาข้อความที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ได้วางไว้โดยอาศัยอำนาจของกฎหมายหรือไม่ก็ได้ เพื่อถือเป็นหลักปฏิบัติงานเป็นการประจำ ให้ใช้กระดาษตราครุฑ
 –  ข้อบังคับ คือ บรรดาข้อความที่ผู้มีอำนาจหน้าที่กำหนดให้ใช้ โดยอาศัยอำนาจของกฎหมายที่บัญญัติให้กระทำได้ ให้ใช้กระดาษตราครุฑ

แบบฟอร์มหนังสือราชการ
แบบฟอร์มหนังสือราชการ หนังสือสั่งการ

5.  หนังสือประชาสัมพันธ์ มี 3 ชนิด ได้แก่ ประกาศ แถลงการณ์ และข่าว
–  ประกาศ คือ บรรดาข้อความที่ทางราชการประกาศ หรือชี้แจงให้ทราบ หรือแนะแนวทางปฏิบัติ ให้ใช้กระดาษตราครุฑ
–  แถลงการณ์ คือบรรดาข้อความที่ทางราชการแถลงเพื่อทำความ เข้าใจในกิจการของทางราชการ หรือเหตุการณ์ หรือกรณีใด ๆ ให้ทราบชัดเจนโดยทั่วกัน ให้ใช้กระดาษครุฑ
–  ข่าว คือ บรรดาข้อความที่ทางราชการเห็นสมควรเผยแพร่ให้ทราบ

แบบฟอร์มหนังสือราชการ พร้อมใช้งาน
แบบฟอร์มหนังสือราชการ หนังสือประชาสัมพันธ์

6.  หนังสือที่เจ้าหน้าที่ทำขึ้นหรือรับไว้เป็นหลักฐานในราชการ คือ หนังสือที่เจ้าหน้าที่ทำขึ้นนอกจากที่กล่าวแล้วข้างต้น หรือหนังสือที่หน่วยงานอื่นใดซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือบุคคลภายนอกมีมาถึงส่วนราชการ และส่วนราชการรับไว้เป็นหลักฐานของทางราชการ มี 4 ชนิด คือ หนังสือรับรอง รายงานการประชุม บันทึกและหนังสืออื่น
–  หนังสือรับรอง คือ หนังสือที่ส่วนราชการออกให้เพื่อรับรองแก่บุคคล นิติบุคคล หรือหน่วยงานเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดให้ปรากฏแก่บุคคลโดยทั่วไป ไม่จำเพาะเจาะจง ให้ใช้กระดาษครุฑ
–  รายงานการประชุม คือ การบันทึกความคิดเห็นของผู้มาประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมและมติของที่ประชุมไว้เป็นหลักฐาน
–  บันทึก คือ ข้อความซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอต่อผู้บังคับบัญชา หรือผู้บังคับบัญชาสั่งการแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือข้อความที่เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานระดับต่ำกว่า ส่วนราชการระดับกรมติดต่อกันในการปฏิบัติราชการ โดยปกติให้ใช้กระดาษบันทึกข้อความ

แบบฟอร์มหนังสือราชการ พร้อมใช้งาน
แบบฟอร์มหนังสือราชการ หนังสือประทับตรา

หลักการเขียนหนังสือติดต่อราชการที่ดี หลัก 5c นั้น คิดค้นเพื่อการจดจำที่ง่ายขึ้น ได้แก่

ถูกต้อง(Correct)

ชัดเจน (Clear)

รัดกุม (Confirm)

กะทัดรัด Concise (Concise)

การโน้มนำสู่จุดประสงค์ (Convince)

ผู้จัดทำและเรียบแรง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
เชิญติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

เตรียมพร้อมสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไปต้นปี 65

เตรียมพร้อมสอบครูผู้ช่วย

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ได้สรุปการประชุมจาก สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ได้จัดให้มีการประชุมออนไลน์ในด้านการเตรียมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 นี้กับ ผู้บริหารระดับเขตพื้นที่การศึกษา โดยมีการแจ้งข่าวสารหลายเรื่อง โดยมีเรื่องการกำหนดสอบครูผู้ช่วย รอบทั่วไป ที่จะมีการเปิดสอบในวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ 2565 และจะเปิดสอบ กรณีพิเศษ ปี 65 อีกครั้ง ในวันที่ 10 กันยายน 2565 ครั้งต่อไป

#แจ้งเพื่อทราบ แผนการสรรหาบุคลากร สพฐ.งบประมาณ 2565 #รอประกาศตราครุฑ

เตรียมพร้อมสอบครู
เตรียมพร้อมสอบครูผู้ช่วยล่าสุด

ขอบคุณข้อมูลจาก ครูวันดีดอทคอม

แนวทางการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 สพฐ.

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ทำได้ดีมาก

คู่มือแนวทางการเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) เนื่องด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ มองเห็นถึงความปลอดภัย เพื่อให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษาและหน่วยงานทางการศึกษาในสังกัด ได้นำแนวทางในการปฏิบัติงานสำหรับเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีแนวทางการสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียนก่อนการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 และระหว่างที่จัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการกำหนด

โดยแบ่งเป็น 6 ส่วนที่นำไปปฎิบัติ ได้แก่
ส่วนที่ 1 ความรู้เบื้องต้นที่ควรรู้ ได้แก่ การรณรงค์ให้นักเรียนอายุ ๑๒ – ๑๘ ปี เข้ารับการฉีดวัคซีน Pfizer และให้สถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการ Sandbox : Safety Zone in School อย่างเคร่งครัด จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักเรียนครู บุคลากรทางการศึกษา และบุคคลที่เกี่ยวข้อง จะต้องรับรู้และสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีน Pfizer และปฏิบัติตามมาตรการได้อย่างเคร่งครัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ส่วนที่ 2 แนวทางปฏิบัติก่อนเปิดภาคเรียน มีความสำคัญอย่างมากเนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตนของนักเรียน ครู บุคลากร และผู้เกี่ยวข้องทุกคนในสถานศึกษา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการติดเชื้อโรคโควิด ๑๙ ตัดความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน และสร้างความปลอดภัยแก่ทุกคน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดให้มีแนวปฏิบัติการเตรียมการก่อนเปิดภาคเรียน ๖ ขั้นตอน

แนวทางการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน
ลิ้งตอบแบบสอบถาม https://stopcovid.anamai.moph.go.th/webapp/main.php

ส่วนที่ 3 แนวปฏิบัติก่อนเปิดภาคเรียน ในระหว่างเปิดเรียนสถานศึกษาต้องปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้รอบคลุมทุกมิติอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ครูและบุคลากรในสถานศึกษาเป็นสำคัญ เป็น ๒ กรณี

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน2
การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน

ส่วนที่ 4 แนวทางการจัดการเรียนการสอน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) โดยสถานศึกษาสามารถกำหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่แตกต่างจากที่กำหนดไว้นี้ หรือจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Hybrid) ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรเป็นสำคัญ

แนวทางการจัดการเรียนการสอน
แนวทางการจัดการเรียนการสอน

ส่วนที่ 5 แผนเผชิญเหตุ สถานศึกษาทุกแห่งจะต้องจัดทำแผนเผชิญเหตุตามมาตรการป้องกันตามระดับการแพร่ระบาดโควิด 19 ของสถานศึกษา กรณีหากพบผู้ติดเชื้อ หรือพบว่ามีนักเรียน ครู หรือบุคลากรทางการศึกษามีความเสี่ยงสูง สถานศึกษาต้องมีความพร้อมในเรื่องสถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบขนส่ง
ระบบการประสานงานตรงกับบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ การสร้างการรับรู้ข่าวสารภายใน รวมทั้งการคัดกรองเพื่อแบ่งกลุ่มนักเรียน ครูและบุคลากรในสถานศึกษา ตามที่กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการกำหนด

แผนเผชิญเหตุ
แผนเผชิญเหตุ

ส่วนที่ 6 บทบาทของบุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงกำหนดบทบาทของ บุคลากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ บทบาทของนักเรียน บทบาทของครูและบุคลากรทางการศึกษา บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษา บทบาทของผู้ปกครองนักเรียน บทบาทขององค์กรสนับสนุน สำนักงานสาธารณสุข องค์กรทางปกครอง องค์กรเอกชน

การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน
การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน
บทบาทของบุคลากรและหน่วยงาน

เรียบเรียงโดย เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
ขอบคุณที่มาของข้อมูล Obec.go.th

รวมฟอร์ม PA1-PA5 ไฟล์เวิร์ดแก้ไขได้

PA1-PA5

สำหรับครูไทยฟรีดอทคอมที่กำลังมองหาการจัดทำ วPA แล้วนั้นในตอนนี้ผมคิดว่า ครูทุกคนต้องทำข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) กับผู้อำนวยการสถานศึกษาทุกปีงบประมาณ ตามที่แบบของ ก.ค.ศ. และต้องมีคะแนนการประเมินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 เพื่อคงวิทยฐานะสำหรับคุณครูทุกๆคนรวมถึงพนักงานราชการ และครูอัตราจ้างก็เป็นได้ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาจัดทำมาตรฐานเพื่อ ใช้ในการประเมินเลื่อนเงินเดือนและการปฏิบัติงาน

ครูที่จะขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ มีแบบฟอร์มดังนี้

รวมแบบฟอร์ม PA1-PA5 (*.doc)
-PA1 แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน
-PA2 แบบประเมินผลการพัฒนางานตามข้อตกลง
-PA3 แบบสรุปผลการประเมินการพัฒนางานตามข้อตกลง
-PA4 แบบประเมินตำแหน่ง ด้านที่ 1 และ ด้านที่ 2
– PA5 แบบประเมิน ด้านที่​ 3

PA1-PA5
PA1-PA5

ดาวน์โหลดเอกสาร PA1-PA5

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร

สวัสดีครับทุกๆท่านที่ได้เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม วันนี้แอดมินอยากจะขอนำเสนอเนื้อหา สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร หากจะพูดถึงการจัดการเรียนการสอนที่เกี่ยวการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเนื่องด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่มีอยู่ในโลกออนไลน์นี้ มีมากมายอย่างมหาศาล

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร

ซึ่งถ้าหากตัวครูผู้จัดการศึกษาในโรงเรียนยังไม่เตรียมความพร้อมให้รู้เท่าทันในการ “เลือกรับ” และ “ปรับใช้” ข้อมูลสารสนเทศที่มีอยู่อย่างเหมาะสม หรือการนำไปใช้งานด้านการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชนที่ยังขาดวิจารณญาณในการเลือกรับและปรับใช้ อาจส่งผลกระทบเชิงลบแก่สังคมในระยะยาว

สมรรถนะทางเทคโนโลยี เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการดำรงชีวิตและการเผชิญหน้ากับปัญหาในศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยเท่านั้น แต่การจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นเสริมสร้าง จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในการเตรียมความพร้อมนักเรียนให้รู้เท่าทันข้อมูลข่าวสารปริมาณมหาศาลที่อยู่รอบตัว

ครูจึงเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนรู้ที่จะช่วยเสริมสร้างให้เยาวชนเหล่านี้เติบโตไปเป็นประชากรของประเทศที่สามารถเลือกรับและปรับใช้ข้อมูลและสารสนเทศที่ได้รับให้เป็นประโยชน์และเหมาะสมที่สุด สมรรถนะทางเทคโนโลยี สามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ด้าน ซึ่งในที่นี้จะเรียกโดยย่อว่า ICA 1-5 (มาจากคำว่า ICT competency area) ได้แก่

ICA1 การเข้าถึง ประเมิน และจัดการข้อมูลและสารสนเทศ (accessing, evaluating, and managing information and data)

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร

ICA2 การแชร์ข้อมูลและการสื่อสาร (sharing information and communicating)

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร
หลักสูตรสมรรถนะ

ICA3 การดัดแปลงและผลิตสารสนเทศและดิจิทัลคอนเทนต์ (transforming and creating information and digital content)

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร
สมรรถนะทางเทคโนโลยี

ICA4 การแก้ไขปัญหาในบริบทโลกดิจิทัลและการคิดเชิงคำนวณ (problem-solving in a digital context and computational thinking)

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร
หลักสูตรสมรรถนะ

ICA5 การใช้ ICT อย่างเหมาะสม (appropriate use of ICT)

สมรรถนะ ทางเทคโนโลยี คืออะไร
หลักสูตรสมรรถนะ

วิธีการหนึ่งในการเตรียมผู้เรียนให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ คือ การปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน โดยมุ่งเสริมสร้างให้ผู้เรียนมี สมรรถนะ (competency) ที่จำเป็น เพื่อที่จะสามารถเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาได้นอกเหนือจากการทำข้อสอบในห้องเรียน เพราะการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ไม่สามารถใช้เพียงความรู้ ที่จดจำได้จากการเรียนในชั้นเรียนเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยสมรรถนะและความสามารถในการเผชิญหน้าและแก้ไขปัญหาที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนด้วย

สุดท้ายนี้ทางเว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอมขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์

สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ จัดทำคู่มือการเตรียมเปิดเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ล่าสุด

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเปิดเรียนล่าสุด

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการเปิดเรียนล่าสุด

สพฐ. ประชุมคณะทํางานจัดทําคู่มือการเตรียมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)

สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ จัดทำคู่มือการเตรียมเปิดเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ล่าสุด

วันที่ 6 ตุลาคม 2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมคณะทํางานจัดทําคู่มือการเตรียมการเปิดภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 5 – 7 ตุลาคม 2564 ณ ห้องประชุม สพฐ. 1 อาคาร สพฐ. 4 ชั้น 2 กระทรวงศึกษาธิการ

นวทางเตรียมความพร้อม ของสถานศึกษา การเปิดภาคเรียน
การเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน

ครูไทยฟรีดอทคอม ขอขอบคุณข่าวสารจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

อบรมออนไลน์ได้เกียรติบัตร ล่าสุด “เรียนรู้ PA สู่การปฏิบัติจริง” ฟรี 10 ตุลาคม 2564

อบรมออนไลน์ได้เกียรติบัตร 2564 ฟรี ล่าสุด

เข้าร่วม อบรมออนไลน์ได้เกียรติบัตร 2564 ฟรี ล่าสุด เรื่อง “เรียนรู้ PA สู่การปฏิบัติจริง”

วันนี้ ครูไทยฟรีดอทคอม ขอนำข่าวสารดีๆ จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 เชิญทุกท่านเข้าร่วมการอบรมออนไลน์ “เรียนรู้ PA สู่การปฏิบัติจริง” ในวันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม 2564
เวลา 08.00 – 16.00 น.

เขียน PA ให้ผ่านเกณฑ์

ประเด็นท้าทายที่ตอบโจทย์การพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

การประเมินคลิปการสอนของครู

การออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ

บทบาทของฝ่ายบริหารต่อระบบประเมินวิทยฐานะ (ระบบ PA)

อบรมออนไลน์ได้เกียรติบัตร 2564 ฟรี
อบรมออนไลน์ได้เกียรติบัตร 2564 ฟรี ล่าสุด

ขอเชิญเข้าร่วมอบรมออนไลน์ “เรียนรู้ PA สู่การปฏิบัติจริง” ฟรี

อบรมออนไลน์ได้เกียรติบัตร 2564 ฟรี

ท่านที่สนใจสามารถเข้าร่วม Facebook Group “”สพม.กท 1 – PA” ที่ลิงก์ https://www.facebook.com/groups/sesao1.pa/ เพื่อฝากประเด็นคำถาม/ข้อสงสัยให้ท่านวิทยากร
มีวุฒิบัตร/เกียรติบัตรออนไลน์ สำหรับผู้เข้าร่วมรับฟังตลอดการอบรม **รับ Link เข้าร่วมการอบรมฯที่ Facebook Group**

อบรมออนไลน์ได้เกียรติบัตร 2564 ฟรี

ขอขอบคุณ Facebook Group “”สพม.กท 1 – PA”

ผู้จัดทำและเรียบแรง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา สพม.กท.1
เชิญติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีอะไรบ้าง อาจหมิ่นประมาทต้องโทษโดยไม่รู้ตัว

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์คืออะไร

สวัสดีครับท่านผู้อ่าน วันนี้เว็บไซต์ครูไทยดอทคอม ได้มองถึงการบังคับใช้ในปัจจุบันที่อาจเป็นเรื่องใกล้ตัวของเราเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอาชีพที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ตลอดเกือบ 24 ชั่วโมงก็ว่าได้ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ปี พ.ศ. 2550 นี้มีเพื่อกำหนดความผิดในการกระทำที่มี“ระบบคอมพิวเตอร์” เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์นี้ เป็นได้ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์วางตัก คอมพิวเตอร์พกพา แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟน รวมถึงระบบต่าง ๆ ที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เช่น น้ำประปา ธนาคาร ระบบควบคุมไฟฟ้า ซึ่งผู้ใช้งานต่างใช้อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เป็นสิ่งที่แน่ชัดว่าย่อมมีกลุ่มหรือบุคคลที่ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีเหล่านี้ในการกระทำความผิด หรือกระทำความผิดผ่านระบบเหล่านี้ เช่น ปั่นป่วนข้อมูลและระบบให้เสียหาย ขโมยข้อมูล การกระทำเหล่านี้ถือเป็นเรื่องใหม่ ทุกๆชั่วโมง ทุกๆนาที ทุกๆวินาที คนจำนวนมากใช้อินเทอร์เน็ตเป็นดังห้องสื่อขนาดใหญ่ ซึ่งทางแอดมินมีความคิดเห็นว่า ทุกวันนี้เราเลี่ยงไม่พ้นระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่รอบตัวเรา และนั่นทำให้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เป็นกฎหมายที่ใกล้ตัวเรามาก โดยอาจทำให้เราทำผิดกฏหมายแบบง่ายๆ เช่น อาจหมิ่นประมาทโดยไม่รู้ตัว ก็คือการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ หากเราไม่รู้เอาไว้ เราอาจจะเผลอไปทำผิด โดยที่เราไม่ได้ตั้งใจก็ได้

พวกเราทุกคน อาจจะได้ยินข่าวเรื่องการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์อยู่มากมายในปัจจุบัน ซึ่งบางเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวหรือเจตนา เพื่อเรียนรู้การกับเรื่องพวกนี้ ฉะนั้น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ จึงมีบทบาทออกมาควบคุม ดังเช่นตัวอย่างการสรุปโทษเกี่ยวกับการโพสแสดงความคิดเห็นต่อไปนี้

มาตราที่ การกระทำโทษ
มาตรา ๑๑ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดย ปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุขปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นอันมีลักษณะเป็น
การก่อให้เกิดความเดือดร้อนรําคาญแก่ผู้รับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่
เปิดโอกาสให้ผู้รับสามารถบอกเลิกหรือแจ้งความประสงค์เพื่อปฏิเสธการตอบรับได้โดยง่าย
ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
มาตรา ๑๔(1) ทุจริต หลอกลวง นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน
5 ปีหรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(2) นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ โดยน่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ สาธารณะ เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ หรือทำให้ประชาชนตื่นตระหนก ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน
5 ปีหรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(3) นำข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของราชอาณาจักร หรือการก่อการร้ายเข้าสู่ระบบ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน
5 ปีหรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(4) นำข้อมูลที่มีลักษณะลามกเข้าสู่ระบบและประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึง ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน
5 ปีหรือปรับไม่เกิน100,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(5) เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลโดยรู้อยู่แล้วว่าผิดตาม ๑ ถึง ๔(วรรค ๒) ถ้าการเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่ผิดตาม ๑ ถึง ๔ เป็น
กระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
จำคุกไม่เกิน ๓ ปี ปรับไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท
มาตรา ๑๖นำภาพของผู้อื่นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปีและ
ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ภาพนั้นเกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อหรือดัดแปลง และน่าจะทำให้ผู้อื่นเสียหาย จําคุกไม่เกิน 3 ปีและ
ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ภาพนั้นเป็นภาพผู้ตาย และน่าจะทำให้บิดา มารดา คู่สมรสหรือบุตรเสียหาย จําคุกไม่เกิน 3 ปีและ
ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ถ้าทำโดยสุจริต เป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ ไม่มีความผิด จําคุกไม่เกิน 3 ปีและ
ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ความผิดตาม วรรค ๑ วรรค ๒ ยอมความได้ ***ถ้าผู้เสียหายตายก่อนร้องทุกข์ บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรร้องทุกข์ได้

และสิ่งที่สำคัญในการกำกับดูแลโลกออนไลน์อยู่ด้วย เช่น ประมวลกฎหมายอาญา หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ซึ่งมีความละเอียดอ่อน เช่น

  1. การเขียนข้อความด่า ประจาน ทำให้คนอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยโพสต์นั้นปรากฏชื่อ รูปภาพ หรือข้อมูลส่วนตัวที่ทำให้รู้ว่าคนที่ถูกพาดพิงนั้นเป็นใครเกิดความเสียหาย มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท
  2. การลงรูปภาพเด็กหรือเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวเด็ก อาจจะทำให้เด็กได้รับความเสียหายทั้งทางจิตใจ ชื่อเสียง หรือโพสต์เพื่อประโยชน์ของตัวเอง มีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ้างอิงรูปภาพ https://www.prachachat.net/social-media-viral/news-236043

ดาวน์โหลด พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2564

ผลการประชุม คณะกรรมการข้าราชการครู

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 10/2564 ในวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน 2564 โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานการประชุม และมี รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นเลขานุการการประชุม ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและมีมติที่สำคัญ ดังนี้

ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครู
ผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครู

1. เห็นชอบ วิธีการดำเนินการบริหารจัดการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปี พ.ศ. 2564 
2. อนุมัติ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัด/กรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จังหวัดกรุงเทพมหานคร สังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 
3. เห็นชอบ การกำหนดตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่าตามมาตรฐานตำแหน่งและมาตรฐานวิทยฐานะ
4.อนุมัติ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดตำแหน่งเพื่อบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

5. เห็นชอบ (ร่าง) ระเบียบก.ค.ศ. เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษจากสภาพการทำงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพ.ศ. ….
             ทั้งนี้ ให้ดำเนินการนำ (ร่าง) ระเบียบ ก.ค.ศ. เงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษจากสภาพการทำงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. …. เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอมว็บไซต์เพื่อครูไทย ใส่ใจการเรียนรู้ ครูไทยฟรีดอทคอม

คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ขอขอบคุณ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ล่าสุด! บัญชีจัดสรรคืนอัตราข้าราชการครู ตำแหน่งว่าง 2564

ตำแหน่งว่าง 2564

ด่วน! บัญชีจัดสรรคืนอัตราข้าราชการครู ที่ว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ ปีงบประมาณ 2564

หลังจากที่ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงขอให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต และสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ รายงานตําแหน่งว่างจากผลการเกษียณอายุราชการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ตามแบบรายงานที่กําหนด แล้วส่งแบบรายงานตําแหน่งว่างดังกล่าว ให้สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภายในวันที่ 23 เมษายน 2564 จึงมีการประกาศเรื่อง การจัดสรรอัตราข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาที่จะเกษียณอายุราชการเมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ดังข้อมูลต่อไปนี้

คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม………!!!!

ด่วน! ลงทะเบียนร่วมสัมมนา การพัฒนาทักษะด้านการใช้งานการออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม AR VR MR 3D

สัมมนา ออนไลน์ ฟรี

ด่วน! ลงทะเบียนกิจกรรมสัมมนาออนไลน์ การพัฒนาทักษะด้านการใช้งานการออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม AR VR MR 3D

ตามที่โครงการ “การพัฒนาทักษะด้านการใช้งาน การพัฒนาหรือการออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม AR VR MR และ 3D ในระดับเบื้องต้น” โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง Future Of Skills ทักษะใหม่แห่งยุคดิจิทัล เทคโนโลยีไหนจะมาตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคต และทิศทางการสร้างรายได้ สร้างอาชีพ ได้จัดขึ้นในครั้งนี้ทาง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ได้นำมาแบ่งปันให้กับผู้ที่สนในพัฒนาตนเองในยุคสมัยของการทำเงินบนโลกดิจิทัล ที่ต้องอาศัยทักษะทางด้านเทคโนโลยีเพื่อการเพิ่มยอดขายสินค้า สำหรับใครที่สนใจสามารถร่วมลงทะเบียนได้ตามลิ้งนี้

รูปแบบการสัมมนา
– Virtual Class ผ่าน Zoom

ลุ้นรับรางวัล Lucky Draw
– ลำโพง JBL
– หูฟังไร้สาย JBL
– Exam Voucher Unity Certification

ลงทะเบียนกิจกรรมสัมมนาออนไลน์

กิจกรรมสัมมนาออนไลน์

ขอบขอบคุณที่มา ครูอาชีพดอทคอม

มหกรรมการศึกษาไทย Education in Thailand เริ่ม 27 – 29 กันยายน 2564

มหกรรมการศึกษาไทย Education in Thailand เริ่ม 27 – 29 กันยายน 2564

อัพเดทข่าวการศึกษาที่สามารถนำพาคุณครูไทยทุกท่านได้พัฒนาการศึกษาไปพร้อมกัน สำหรับครูไทยดอทคอมวันนี้ ได้นำลิงก์รับชม และหัวข้อการเสวนา การประชุม มหกรรมการศึกษาไทย Education in Thailand ได้มาฝากกัน ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 – 29 กันยายน 2564 เพียงแค่ 3 วัน พร้อมรับเกียรติบัตรจากสภาการศึกษา รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านเพื่อศึกษาได้เลยครับ

คลิกชมย้อนหลัง การประชุม มหกรรมการศึกษาไทย Education in Thailand สภาการศึกษา วันที่ 27 กันยายน 2564

การประชุม มหกรรมการศึกษาไทย Education in Thailand
ระหว่างวันที่ 27 – 29 กันยายน 2564ช่วงเช้า
>> 9.00 – 12.00 น. ช่วงบ่าย >> 13.00 – 16.00 น.
1) ไม่มีการลงทะเบียนล่วงหน้า
2) จะมี QR Code แบบประเมินสำหรับรับเกียรติบัตรเผยแพร่ระหว่างการถ่ายทอดสด 📣 ทาง Youtube Live ในแต่ละห้องย่อย
3) QR Code ของแต่ละห้องย่อย แตกต่างกันทุกห้องโดยกำหนดจำนวนเกียรติบัตรไว้ที่ 📣#ห้องย่อยละ1500ฉบับ
หากท่านทำแบบประเมินไม่ทันตามเงื่อนไข สามารถติดตามรับชม และสแกน QR Code เพื่อทำแบบประเมินได้ในวันถัดไปครับ 
4) ผู้รับชมการถ่ายทอดสด สามารถสแกน QR Code เพื่อเข้าทำแบบประเมินตามวันและเวลา ดังนี้
📝 วันที่ 27 กันยายน 2564
📌 เวลา 15.30 – 17.00 น.
II ห้องย่อย_ช่วงบ่าย << ⭐️.

✅ ทิศทางปฏิรูปการศึกษาไทย ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใหม่ • สมรรถนะคนไทยสู่คนคุณภาพสากล https://youtu.be/40cwSzv3wn4.
✅ EF กับเด็กปฐมวัย • Can Do ครูทำได้https://youtu.be/CmF0eNm6_vc.
✅ ดัชนีการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย และแนวทางการขับเคลื่อนการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในระดับจังหวัดhttps://youtu.be/W1I9O_aGIzg.
✅ ข้อเสนอการจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน: ความเข้าใจ ความเชื่อ หรือความมั่นคงhttps://youtu.be/kRzPOnBcQoc


📝 วันที่ 28 กันยายน 2564
📌 เวลา 11.30 – 13.00 น.
✅ การเรียนรู้ในยุคโควิด เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างไรhttps://youtu.be/s5k6qrMNOcc.
✅ Platform การสอนออนไลน์ • แนวทางการประยุกต์ใช้และตัวอย่างระดับประเทศhttps://youtu.be/cm0nKY4Yl9w.
✅ ร่างข้อเสนอเชิงนโยบายแนวทางการจัดการศึกษาสำหรับผู้สูงอายุอย่างมีส่วนร่วม https://youtu.be/b3Qg1sRx_tE.
✅ พลิกโฉมการศึกษาของชาติด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์ม • โครงการ mission แมวมอง แมวมีhttps://youtu.be/YJWoZeX_QYA.
✅ ลดความเหลื่อมล้ำอย่างไร ให้เด็กไทยได้ไปต่อ https://youtu.be/8JNfZusP7M4

📌 เวลา 15.30 – 17.00 น.
✅ How to สู่ DOE Thailand • บทเรียนจากสถานศึกษาร่วมคิด ร่วมทำ นำเด็กไทยสู่ DOEhttps://youtu.be/6__ZD6bo9lk.
✅ การพัฒนาการเรียนรู้ที่ยึดพื้นที่เป็นฐาน การเตรียมกำลังงานคุณภาพสำหรับอนาคตhttps://youtu.be/mjGZEAy_wFQ
✅ การพัฒนาสมรรถนะด้านดิจิทัลของผู้เรียนอาชีวศึกษาhttps://youtu.be/t2Uo-XZjS48
✅ ถอดรหัสพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาสู่การพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาที่เป็นอิสระhttps://youtu.be/Ev3mwPRjGUc

📝 วันที่ 29 กันยายน 2564
📌 เวลา 11.30 – 13.00 น.
✅ การศึกษากับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศhttps://youtu.be/r2RqL2StZlc
✅ ทวิภาคีกับการขับเคลื่อนประเทศตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษาhttps://youtu.be/_XtSTsL1NKQ
✅ ผลิต-คัดกรอง-พัฒนาครู ผู้บริหาร อย่างไร • ให้ผ่านพ้นวิกฤติที่ท้าทายและปั่นป่วนจากหลายปัจจัยรุมเร้าhttps://youtu.be/-QUxUBLQDUU
✅ แผนการศึกษาแห่งชาติกับร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ….https://youtu.be/ouM0pGwBO0I

5) ***โปรดตรวจสอบ Email คำนำหน้า ชื่อ-สกุล #ทุกตัวอักษร *** เนื่องจากข้อความที่ท่านพิมพ์ใน Google Form จะเติมลงในเกียรติบัตรออนไลน์ เป็นระบบอัตโนมัติไม่สามารถแก้ไขได้
6) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา *** ขอสงวนสิทธิ์ใบเกียรติบัตรสำหรับผู้ที่ทำแบบประเมินครบถ้วนสมบูรณ์เท่านั้น ***

รวมลิงก์ Youtube Live มหกรรมการศึกษาไทย

เริ่มจาก การปาฐกถาพิเศษโดยองคมนตรี • การมอบนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ • และการเสวนาในแต่ละห้องย่อย • https://bit.ly/3ugkk44

กำหนดการและหัวข้อการเสวนาในห้องย่อย https://bit.ly/2XBrFyO

ท่านสามารถดาวน์โหลดเกียรติบัตรทาง Google Drive ซึ่งจะแจ้งให้ทราบในวันที่ 30 กันยายน 2564 เวลา 16.00 น. ทาง Facebook : OEC News สภาการศึกษา

ที่มา OEC News สภาการศึกษา

แจกข้อตกลงในการพัฒนางาน วPA ครู วิทยฐานะ เกณฑ์ ใหม่ แก้ไขได้ DOC

วิทยฐานะ เกณฑ์ ใหม่

บันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน วPA ครู รอบที่ 1 ปีงบประมาณ (2564-2565) นี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นรูปแบบที่ใช้งานการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่งครู ภายในสถานศึกษาแห่งหนึ่งเท่านั้น เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ขอนำเสอนรูปแบบนี้เพื่อเป็นแนวทางให้กับคณะครูหลายๆท่านที่ต้องการนำไปปรับใช้ได้ตามบริบทของสถานศึกษาตนเอง

บบบันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement :PA) พร้อมแก้ไขและยื่นเสนอได้

อ้างอิงจาก คู่มือวิทยฐานะ PA ประเมินวิทยฐานะครูและบุคลากรทางการศึกษา ว22/2564

แจกข้อตกลงในการพัฒนางาน วPA ครูเทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ) รอบที่ 1 แก้ไขได้ DOC

ดาวน์โหลดเอกสารครูไทยฟรี

แบบบันทึกข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement :PA)
สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วิทยฐานะ
(ทุกสังกัด)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. …………….
ระหว่างวันที่………..เดือน……………………….พ.ศ………..ถึงวันที่………..เดือน……………………….พ.ศ………..
ผู้จัดทำข้อตกลง
ชื่อ………………………….สกุล…………………………………………ตำแหน่ง………………….วิทยฐานะ……………………………
สถานศึกษา………………………………………………………………สังกัด………………………………………………………………….
ได้รับเงินเดือนในอันดับ คศ. ……………….อัตราเงินเดือน………………………………บาท
ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้
( ) ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน
( ) ห้องเรียนปฐมวัย
( ) ห้องเรียนการศึกษาพิเศษ
( ) ห้องเรียนสายวิชาชีพ
( ) ห้องเรียนการศึกษานอกระบบ/ตามอัธยาศัย

ลักษณะงานที่ปฏิบัติตาม มฐ. ตำแหน่ง
งาน (Task) ที่จะดำเนินการพัฒนาตามข้อตกลงใน 1 รอบการประเมิน (โปรดระบุ)
ผลลัพธ์(Outcome) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น (โปรดระบุ)
ตัวชี้วัด (Indicator) ที่จะเกิดกับผู้เรียนที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้นหรือมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น(โปรดระบุ)
ด้านการจัดการเรียนรู้
การสร้างและการพัฒนาหลักสูตร
การออกแบบการจัดการเรียนรู้
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
การสร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม5 เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
การวัดประเมินผลการจัดการเรียนรู้
การศึกษาวิเคราะห์สังเคราะห์เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนาการเรียนรู้
การจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
การอบรมพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน
ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้

  1. การจัดทำสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
  2. การดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
  3. การปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆของสถานศึกษา
  4. การประสานความร่วมมือกับผู้ปกครองภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ

ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ

  1. การพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
  2. การมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
  3. การนำความรู้ความสามารถทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการ พัฒนาการจัดการเรียนรู้การพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน และการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้

ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทาย ในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ต้องแสดงให้เห็นถึงการ (เลือกตามวิทยฐานะ/ปรับประยุกต์/แก้ปัญหา/ริเริ่มพัฒนา/คิดค้นพัฒนา/สร้างการเปลี่ยนแปลง) การจัดการเรียนรู้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

ดาวน์โหลด แบบประเมินเลื่อนขั้นเงินเดือนรอบที่ 2 (1 ตุลาคม 2564) Doc

รายงานผลการปฏิบัติงาน เลื่อนเงินเดือน

แบบประเมินเลื่อนเงินเดือนครู ประเมินตนเองและผู้บังคับบัญชาประเมิน

ดาวน์โหลดที่นี่ แบบประเมินเลื่อนเงินเดือนครู ประเมินตนเองและผู้บังคับบัญชาประเมิน

โดยอ้างอิงจากหนังสือ ก.ค.ศ. ว20/2563 เรื่องการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับเงินเดือน สูงกว่าขั้นสูงของอันดับ ซึ่งในเวลานี้ก็ใกล้กับเวลาที่จะประเมินเลื่อนเงินเดือนกันแล้ว วันนี้ ครูไทยฟรีดอทคอม จึงขอจะได้นำ แบบประเมินเลื่อนเงินเดือนครู  มาให้คุณครูเก็บไว้ดาวน์โหลดกันนะครับ

ว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ให้คุณครูได้ใช้เป็นแนวทางในการเลื่อนเงินเดือน ซึ่งจะใช้ในการประเมินเลื่อนเงินเดือนตั้งแต่ รอบเดือนเมษายน 2564-กันยายน 2564 เป็นต้นไป โดยหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินเพื่อการเลื่อนเงินเดือนของคุณครู จะมีอยู่ 2 ตอนดังนี้

ตอนที่ 1 การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงาน (70 คะแนน)ประกอบไปด้วย
1. ด้านการจัดการเรียนการสอน
2. ด้านการบริหารจัดการชั้นเรียน
3. ด้านการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ
4. งานอื่นที่ได้รับมอบหมาย

ตอนที่ 2 การประเมินการปฏิบัติตนในการรักษาวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ (30 คะแนน)

ตอนที่ 3 การสรุปผลการประเมิน
ตอนที่ 4 ผลกระประเมิน
ตอนที่ 5 การรับทราบผลการประเมิน

ดาวน์โหลดไฟล์ แบบประเมินเลื่อนเงินเดือนรอบที่ 2 ตุลาคม 2564 คลิกที่นี่

ดาวน์โหลดเอกสารครูไทยฟรี
ดาวน์โหลดเอกสารครูไทยฟรี

สอบใบประกอบวิชาชีพครู เกณฑ์ใหม่!!

สอบใบประกอบวิชาชีพครู เกณฑ์ใหม่

ตามที่ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563
          โดยทางที่เป็นการสมควร เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ได้ทำความเข้าใจของการมีการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะ ทางวิชาชีพครู ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลไกและระบบการคัดกรองผู้ประกอบวิชาชีพครูให้ได้ผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู และมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนด

          โดยที่คุรุสภามีการออกข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ พ.ศ. 2559 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใหม่ โดยกำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ต้องผ่านการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด โดยยกเว้น ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากปริญญา หรือประกาศนียบัตรทางการศึกษาที่คุรุสภารับรองที่เข้าศึกษาก่อนปีการศึกษา 2562 และผู้ได้สิทธิในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูก่อนข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ (ผู้ผ่านการรับรองความรู้ฯ และมีใบอนุญาตปฏิบัติการสอนอยู่ระหว่างทำคุณสมบัติด้านประสบการณ์ วิชาชีพครู 1 ปี ภายในวันที่ 3 ตุลาคม 2563)

          โดยคณะกรรมการคุรุสภา ในการประชุมครั้งที่ 6/2563 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2562 และครั้งที่ 2/2563 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบแนวทาง การดำเนินการทดสอบฯ และการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ออกเป็น “ประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563” ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563

          สาระสำคัญโดยย่อของประกาศฯ
          1. กำหนดองค์ประกอบของการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาขีพครู ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่
               1.1 ความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งจะดำเนินการโดยวิธีทดสอบ รวม 5 รายวิชา ได้แก่
                    (1) วิชาภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัล ประกอบด้วย
                          1) การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
                          2) การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
                          3) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา
                    (2) วิชาชีพครู
                    (3) วิชาเอก ตามที่คณะอนุกรรมการกำหนด
               1.2 การปฏิบัติงานและการปฏิบัติตน ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ซึ่งจะดำเนินการโดยวิธีการประเมิน ตามเครื่องมือประเมินที่คุรุสภากำหนด ในด้านต่าง ๆ ได้แก่
                    (1) การจัดการเรียนรู้
                    (2) ความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน
                    (3) การปฏิบัติหน้าที่ครู และจรรยาบรรณของวิชาชีพ
          2. กำหนดคุณสมบัติของผู้เข้ารับการทดสอบและประเมินฯ จำแนกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
               2.1 ผู้ศึกษาในหลักสูตรปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า ที่คุรุสภารับรอง ประกอบด้วย
                    (1) ผู้มีคุณวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่าที่คุรุสภารับรอง หรือ
                    (2) ผู้อยู่ระหว่างศึกษาในหลักสูตรปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า ที่คุรุสภารับรอง ตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่คณะอนุกรรมการกำหนด
               2.2 ผู้มีคุณวุฒิปริญญาอื่น ที่คุรุสภารับรอง และมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
                    (1) ผ่านการรับรองความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพครูที่คุรุสภากำหนด หรือ
                    (2) ผ่านการรับรองคุณวุฒิการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพครู

ประกาศคณะกรรมการคุรุสภาเรื่อง รายละเอียดของมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2562

ประกาศคณะกรรมการคุรุสภาเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู พ.ศ. 2563

ขอขอบคุณที่มา : คุรุสา

สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ ด้วยอุปกรณ์เสริม แอพฯ เสียงเอฟเฟค

สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ

สอนออนไลน์ให้สนุก สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ ด้วยอุปกรณ์เสริม แอพฯ เสียงเอฟเฟค

สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ
สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ

สำหรับยุคนี้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนออนไลน์ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม มีเทคนิคดีๆที่จะมาบอกต่อให้กับคุณครูทุกท่านที่กำลังมองหาเครื่องมือที่ต้องนำมาใช้กับนักเรียนในระหว่างการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดความน่าสนใจ สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ ยิ่งขึ้นสำหรับบทเรียน คุณครูมักจะเจอปัญหาผู้เรียนไม่สนใจเรื่องที่สอน หรือผู้เรียนมักจะบ่นว่าเรียนไม่เข้าใจอยู่บ่อยๆ ใช่ไหมครับ?

แล้วจะเลือกใช้วิธีไหนที่ดึงความสนใจจากผู้เรียน ให้เขาได้รับความรู้และรู้สึกสนุกสนานในระหว่างที่มีการเรียนออนไลน์ และเพื่อให้การศึกษาของนักเรียนไม่มีขาดตอน การเรียนออนไลน์จึงเข้ามามีบทบาทให้ครูไทยได้ท้าทายอย่างยิ่งสำหรับปัจจุบัน โดยมีเทคโนโลยีที่ทำให้เข้าถึงความรู้ได้มากมาย และทำให้คุณครูสามารถออกแบบการสอนได้หลากหลายอีกด้วย แต่จะดึงความสนใจจากผู้เรียนได้อย่างไรบ้าง? สิ่งเหล่านี้นำมาใช้ได้สำหรับคุณครูทุกท่าน ได้แก่ แอพเสียงเอฟเฟค ซึ่งสามารถสร้างความน่าสนใจต่อเด็ก การเร้า การตอบสนองของพฤติกรรมนักเรียน ในระหว่างที่เรียนได้อย่างดี

สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ
สอนออนไลน์ยังไงให้น่าสนใจ

สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ ios และ android ได้ที่นี่

ดาวน์โหลดแอฟเสียงเอฟเฟค android
ดาวน์โหลดแอฟเสียงเอฟเฟค android
ดาวน์โหลดแอฟเสียงเอฟเฟค IOS
ดาวน์โหลดแอฟเสียงเอฟเฟค IOS

ลักษณะสำคัญของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning)

       1. ผู้เรียนเป็นใครก็ได้ อยู่ที่ใดก็ได้ เรียนเวลาก็ใด เอาตามความสะดวกของผู้เรียนเป็นสำคัญ เนื่องจากโรงเรียนออนไลน์ได้เปิดเว็บไซต์ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

        2. มีสื่อทุกประเภทที่นำเสนอในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะทั้ง ข้อความ , ภาพนิ่ง , ภาพเคลื่อนไหว , เสียง , VDO ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจ ในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังทำให้เหตุภาพของเนื้อหาต่างๆง่ายดายมากขึ้น

        3. ผู้เรียนสามารถเลือกวิชาเรียนได้ตามความต้องการ

        4. เอกสารบนเว็บไซต์ที่มี Links ต่อไปยังแหล่งความรู้อื่นๆ ทำให้ขอบเขตการเรียนรู้กว้างออกไป และเรียนอย่างรู้ลึกมากขึ้น

ประโยชน์ของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning)

        1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน เนื่องจากไม่ได้จำกัดอยู่ในสถานที่เดียวเท่านั้น

        2. เกิดเครือข่ายความรู้ โยงใยออกไปไกล

        3. เน้นการเรียนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง

        4. ช่วยลดช่องว่างระหว่างการเรียนรู้ในเมืองกับท้องถิ่น