มาแล้ว!! แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 พร้อมเฉลย pdf

แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 พร้อมเฉลย pdf

สวัสดีครับทุกๆท่าน ที่กำลังมาหาตัวช่วย แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 พร้อมเฉลย pdf นี้ โดยผมได้จัดทำให้มีทั้งหนังสือและแบบฝึกหัด ซึ่งสามารถอ้างอิงได้จากคู่มือครู สสวท โดยจัดทำตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 พร้อมเฉลย pdf

ช่วยเป็นกำลังใจ กดไลด์กดแชร์หน้าเว็บ แล้วสามารถดาวน์โหลดได้จากลิ้งข้างล่างเลยครับ

โดยมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการวิเคราะห์ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้รายชั้นปี จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระสำคัญ แนวการจัดการเรียนรู้ แนวการจัดกิจกรรมในหนังสือเรียน ตัวอย่างข้อสอบประจำบทพร้อมเฉลย รวมทั้งเฉลยจากรูปเล่มหนังสือเรียน ซึ่งสอดคล้องกับเนื้อหาหลักสูตรรายวิชาพื้นฐานปรับปรุงใหม่ 2560 สามารถดูตัวอย่างด้านล่างได้เลย

แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 พร้อมเฉลย pdf

ตัวอย่างเฉลยแบบฝึกหัด

แบบฝึกหัด คณิตศาสตร์ ป.4 เล่ม 1 พร้อมเฉลย pdf

ปุ่มดาวน์โหลดอยู่ที่นี่ !!! คลิกโหลดฟรี

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา คลังความรู้ SciMath
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ
สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

แชร์ฟรี แนวข้อสอบครูผู้ช่วย เอก วิทยาศาสตร์ เพื่อครูวิทย์ by ครูตัวน้อย 2566

แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิทยาศาสตร์

สวัสดีคุณครูทุกท่านครับ ครูไทยฟรีดอทคอม ขอนำเสนอแจกฟรี แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิทยาศาสตร์ เพื่อครูวิทย์ by ครูตัวน้อยแจกฟรี เอกสารสอบครูผู้ช่วย ประจำปีการศึกษา 2566 สอบครูผู้ช่วยวิทยาศาสตร์

แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิทยาศาสตร์
แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิทยาศาสตร์

การสอบครูผู้ช่วย หรือการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย นั่นเอง จำเป็นต้องสอบทั้งหมด 3 ภาค โดยแบ่งเป็น ภาค ก, ภาค ข, ภาค ค และส่วนที่สำคัญสำหรับการสอบนั้นคือ ภาค ก ฉะนั้นเราต้องเริ่มต้นด้วยการทำคะแนนให้ดีตรงภาค ก

แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิทยาศาสตร์

ข้อสอบหลักการวิทยาศาสตร์ 100 ข้อ

พาร์ท คำนวณ ฟิสิกส์ เคมี

ตัวอย่างเอกสารติว พาร์ท ชีววิทยา

ตัวอย่างการติว พาร์ท ฟิสิกส์

ตัวอย่างการติว พาร์ท เคมี

แนวข้อสอบจากเว็บครูวันดี เนื้อหาประกอบด้วย สำหรับแนวข้อสอบที่จะนำมาให้ดาวน์โหลดนี้ ไม่อนุญาตให้ใช้เพื่อการค้า ขอสงวนสิทธิ์โดย บ้านสอบครู โดย ดร.บวร เทศารินทร์ บ้านสอบครู สอบครูดอทคอม

  • แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ชุดที่ 1
  • แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ชุดที่ 2
  • แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ชุดที่ 3
  • แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ชุดที่ 4
  • แนวข้อสอบครูผู้ช่วย วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ชุดที่ 5

โหลดได้ฟรีจากที่นี่ !!!!!!!!

แจกไฟล์ คําสั่งแต่งตั้งคณะทํางาน ita 2566 รูปแบบไฟล์ word แก้ไขได้

คําสั่งแต่งตั้งคณะทํางาน ita 2566

สวัสดีทุกๆท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา ท่านมาถูกที่แล้ว ที่นี่มีแต่ของฟรีๆ ที่ครูไทยฟรีดอทคอม ก่อนเราจะเริ่มดำเนินงานใดๆก็ตามจะต้องมีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อให้งานดำเนินไปได้ด้วยความเรียบร้อยและประสบความสำเร็จ

คําสั่งแต่งตั้งคณะทํางาน ita 2566
คําสั่งแต่งตั้งคณะทํางาน ita 2566

วันนี้แอดขอนำ ไฟล์คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หากสามารถดาวน์โหลดคู่มือมาเพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานนั้น อาจทำให้องค์กรเรามีประสิทธิภาพในการทำงานที่มุ่งประสบผลสัมฤทธิ์ได้ยิ่งขึ้น ทางแอดจึงอยากจะนำมาให้พวกเราได้ดาวน์โหลดแล้วนำไปปรับใช้กันตามบริบทของโรงเรียน ดังตัวอย่างต่อไปนี้

คําสั่งแต่งตั้งคณะทํางาน ita 2566

แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงาน ของสถานศึกษาออนไลน์ (Integrity & Transparency Assessment   Online : ITA Online) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

การประเมิน ITA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นั้นยังคงใช้กรอบแนวทางหลักในการประเมินเช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา โดยการรับฟังความคิดเห็นและรวบรวมความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ และได้มีความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานป้องกันการทุจริตร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ท. และสำนักงาน ก.พ. ส่งผลให้การประเมิน ITA จะมีการปรับปรุงที่สำคัญในส่วนที่เป็นการขับเคลื่อนร่วมกัน

นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2566 ถือเป็นปีที่สำคัญและท้าทายของภาครัฐทั่วประเทศจะได้พัฒนาตนเองในด้านคุณธรรมและความโปร่งใสเพื่อให้มีผลการประเมินในภาพรวมบรรลุค่าเป้าหมายตามที่แผนแม่บทฯ กำหนดไว้ อันถือเป็นการ “เติบโตสู่เป้าหมาย” ร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ

สำหรับการประเมินตามแบบวัดต่างๆ จาก ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก เช่น แบบวัด IIT แบบวัด EIT และแบบวัด OIT

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

แนวทางการดำเนินงานตาม คู่มือ ITA 2566 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไฟล์ word (doc)

คู่มือ ITA 2566

สวัสดีครับก็น่าจะใกล้ถึงความจริงของการเตรียมพร้อมการประเมิน วันนี้แอดมินขอนำ คู่มือ ITA 2566 ประเมินสถานศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ หรือศึกษาจาก คู่มือ ITA2022 ให้สามารถนำไปศึกษาจัดทำแนวทางในการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่างๆในสถานศึกษาเพื่อรับการประเมิน ปี 2023

คู่มือ ITA 2566

แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมชอบ ( พ.ศ. 2561 – 2580) ได้กำหนดให้การประเมินคุณธรรมและความโปรง่ ใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดของแผนย่อยการป้องกันการทุจริตและประพฤติมชอบ โดยในระยะที่ 2 ได้กำหนดให้ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 หน่วยงานที่เข้า ร่วมการประเมินคุณ ธรรมและความโปรง่ ใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐผ่านเกณฑ์ (85 คะแนนขึ้นไป) จำนวนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 100

คู่มือ ITA 2566

คณะรัฐมนตรีการประชุมเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 ได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ โดยสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

  • หน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของหน่วยงานภาครัฐต้องดำเนินการกำกับติดตามการประเมินฯและผลักดันให้หน่วยงานภายใต้กำกับดูแลดำเนินการให้เป็นไปตาม แนวทางการประเมินที่กำหนด
  • หน่วยงานภาครัฐต้องให้ความร่วมมือและเข้าร่วมการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 – 2570 โดยการกำหนดกลุ่มเป้าหมายหน่วยงานที่เข้าร่วมการประเมินฯ แนวทางการประเมินฯ และเครื่องมือการประเมินฯ ให้เป็นไปตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. กำหนด

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.)
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

แบ่งปันการทำงาน คู่มืออาหารกลางวัน 2566 ปฏิบัติงานง่ายไม่ผิดระเบียบ

คู่มืออาหารกลางวัน 2566

สวัสดีทุกท่าน วันนี้ครูไทยฟรีดอทคอม ก็ได้นำสิ่งที่ดีๆในการปฏิบัติงานภายในสถานศึกษา เรื่อง แนวทางการจัดสรรอาหารกลางวัน 2566 ประจำปีการศึกษา 2565 ตามแนวทางการบริหารจัดการงบประมาณค่าอาหารกลางวัน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 อ้างถึง

คู่มืออาหารกลางวัน 2566

ตามที่ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารระดับสูง แถลงข่าวมติคณะรัฐมนตรี เห็นชอบการปรับเพิ่มอัตราค่าอาหารกลางวันของนักเรียน ชั้นเด็กเล็ก-ป.6 ทั่วประเทศ

ศธ.ได้เล็งเห็นปัญหาและกลับมาทบทวนตัวเลขที่เหมาะสมของอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนให้มีคุณภาพมากที่สุด ให้โภชนาการครบ 5 หมู่ เพราะเป็นช่วงวัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการทานอาหารที่มีประโยชน์เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ส่งผลต่อพัฒนาการด้านกายภาพและความคิดสร้างสรรค์

สำหรับมติ ครม. ที่ได้ปรับอัตราค่าอาหารกลางวัน ได้ปรับอัตราให้ตามขนาดของโรงเรียนต่อคนต่อวัน แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

  • โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 1-40 คน ได้รับเงินค่าอาหารกลางวัน 36 บาท/คน/วัน
  • โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 41-100 คน ได้รับเงินค่าอาหารกลางวัน 27 บาท/คน/วัน
  • โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียน 101-120 คน ได้รับเงินค่าอาหารกลางวัน 24 บาท/คน/วัน
  • โรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 121 คนขึ้นไป ได้รับเงินค่าอาหารกลางวัน 22 บาท/คน/วัน

ซึ่งจะเริ่มใช้ในการจัดทำแผนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 28,365,864,000 บาท เป้าหมายของอัตราค่าอาหารกลางวันตามขนาดของโรงเรียน จะเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา 5 สังกัด ได้แก่

1) โรงเรียนสังกัด สพฐ.

2) โรงเรียนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

3) โรงเรียนสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน

4) สถานศึกษาสังกัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

5) สถานศึกษาสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ

ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 คูณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนระดับชั้นเด็กเล็กถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในอัตราตามขนาดโรงเรียนตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำแนวทางการบริหาร จัดการงบประมาณค่าอาหารกลางวัน

เพื่อให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบและหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้องตามอ้างถึง รวมทั้งสามารถตอบสนองต่อความต้องการและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิผลโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความผาสุก ความสงบและปลอดภัย รวมทั้งความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนตามแนวนโยบายของรัฐบาล จึงต้องให้มีการดำเนินการตามคู่มือที่กำหนดดำเนินการอย่างถูกต้อง ดาวน์โหลดคู่มือได้จาก ลิ้งด้านล่าง

คู่มืออาหารกลางวัน 2566

เอกสารอ้างอิง

มติคณะรัฐมนตรี เรื่อง ขอปรับเพิ่มค่าอาหารกลางของนักเรียน

แนวทางการบริหารจัดการงบประมาณค่าอาหารกลางวัน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565

มาตรฐานการศึกษา 3 มาตรฐาน ระดับปฐมวัย ขั้นพื้นฐานและศูนย์การศึกษาพิเศษ รูปแบบไฟล์ doc

มาตรฐานการศึกษา 3 มาตรฐาน

อีกหนึ่งบทความที่ต้องการมานำเสนอไว้ในเว็บครูไทยฟรีดอทคอมได้แก่ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา นั้น เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนามนุษย์ เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายทุกคนในสถานศึกษาต้องรับรู้ และปฏิบัติงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบและรับผิดชอบต่อผลการจัดการศึกษาที่เกิดขึ้น

มาตรฐานการศึกษา 3 มาตรฐาน
มาตรฐานการศึกษา 3 มาตรฐาน

ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 (3) มาตรา 48 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และมาตรา 5 มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ประกอบกับมติคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการประชุมครั้งที่ 5/2561 เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงประกาศให้ใช้มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัยระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ เพื่อเป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับสถานศึกษา หน่วยงานต้นสังกัด และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน กำกับดูแล และติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ตามเอกสารแนบท้ายประกาศฉบับนี้

 ให้ใช้กับสถานศึกษาที่เปิดสอนระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ

มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนบท้ายประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ
ฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2561

มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย พ.ศ. 2561 มีจำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ
แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียดดังนี้

มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก
1.1 มีพัฒนาการด้านร่างกาย แข็งแรง มีสุขนิสัยที่ดี และดูแลความปลอดภัยของตนเองได้
1.2 มีพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควบคุม และแสดงออกทางอารมณ์ได้
1.3 มีพัฒนาการด้านสังคม ช่วยเหลือตนเอง และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
1.4 มีพัฒนาการด้านสติปัญญา สื่อสารได้ มีทักษะการคิดพื้นฐาน และแสวงหาความรู้ได้

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
2.1 มีหลักสูตรครอบคลุมพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน สอดคล้องกับบริบทของท้องถิ่น
2.2 จัดครูให้เพียงพอกับชั้นเรียน
2.3 ส่งเสริมให้ครูมีความเชี่ยวชาญด้านการจัดประสบการณ์
2.4 จัดสภาพแวดล้อมและสื่อเพื่อการเรียนรู้ อย่างปลอดภัย และเพียงพอ
2.5 ให้บริการสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อการเรียนรู้เพื่อสนับสนุนการจัดประสบการณ์
2.6 มีระบบบริหารคุณภาพที่เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

มาตรฐานที่ 3 การจัดประสบการณ์ที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ
3.1. จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการทุกด้านอย่างสมดุลเต็มศักยภาพ
3.2 สร้างโอกาสให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรง เล่นและปฏิบัติอย่างมีความสุข
3.3 จัดบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับวัย
3.4 ประเมินพัฒนาการเด็กตามสภาพจริงและนำผลการประเมินพัฒนาการเด็กไปปรับปรุงการจัดประสบการณ์และพัฒนาเด็ก

มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แนบท้ายประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ
ฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2561

มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2561  มีจำนวน 3 มาตรฐาน  ได้แก่
           มาตรฐานที่  1  คุณภาพของผู้เรียน
                                1.1  ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน
                                1.2  คุณลักษณะที่พึงประสงค์
           มาตรฐานที่  2  กระบวนการบริหารและการจัดการ
           มาตรฐานที่  3  กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียด  ดังนี้

มาตรฐานที่  1  คุณภาพของผู้เรียน
          1.1  ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน
                     1)  มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ
                     2)  มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา
                     3)  มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม
                     4)  มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
                     5)  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา
                     6)  มีความรู้  ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ
           1.2  คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
                     1)  การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษากำหนด
                     2)  ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย
                     3)  การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและหลากหลาย
                     4)  สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม

มาตรฐานที่  2  กระบวนการบริหารและการจัดการ
           2.1  มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน
           2.2  มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา
           2.3  ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย
           2.4  พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ
           2.5  จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
           2.6  จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้

มาตรฐานที่  3  กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
           3.1  จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้
           3.2  ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศและแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้
           3.3  มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก
           3.4  ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบและนำผลมาพัฒนาผู้เรียน
           3.5  มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้

มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศูนย์การศึกษาพิเศษ
แนบท้ายประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ
ฉบับลงวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561

มาตรฐานการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ. 2561 มีจำนวน 3 มาตรฐาน ได้แก่
มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน
1.1 ผลการพัฒนาผู้เรียน
1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
แต่ละมาตรฐานมีรายละเอียดดังนี้

มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน
1.1 ผลการพัฒนาผู้เรียน
1) มีพัฒนาการตามศักยภาพของแต่ละบุคคล ที่แสดงออกถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะตามที่ระบุไว้ในแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล หรือ แผนการให้บริการช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว
2) มีความพร้อมสามารถเข้าสู่บริการช่วงเชื่อมต่อหรือการส่งต่อเข้าสู่การศึกษาในระดับที่สูงขึ้น หรือการอาชีพหรือการดำเนินชีวิตในสังคมได้ตามศักยภาพของแต่ละบุคคล
1.2 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน
1) มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สถานศึกษากำหนด
2) มีความภูมิใจในท้องถิ่น และความเป็นไทย ตามศักยภาพของผู้เรียนแต่ละบุคคล

มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ
2.1 มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน
2.2 มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา
2.3 ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย
2.4 พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ
2.5 จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
2.6 จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการและการจัดการเรียนรู้

มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้
3.2 ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้
3.3 มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก
3.4 ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน
3.5 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับเพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้

แจกเอกสาร แบบฟอร์มมอบหมายงานในหน้าที่ doc สำหรับครูย้าย หรือเกษียณอายุราชการ

แบบฟอร์มมอบหมายงานในหน้าที่ doc

สวัสดีครับ วันนี้ครูไทยฟรี ขอนำเอกสารที่ดีๆ เกี่ยวกับการบันทึก แบบฟอร์มมอบหมายงานในหน้าที่ doc สำหรับครูที่ได้รับการพิจารณาให้ย้ายโรงเรียน หรือกรณีที่เกษียณอายุราชการ มาฝากนะครับ

แบบฟอร์มมอบหมายงานในหน้าที่ doc
แบบฟอร์มมอบหมายงานในหน้าที่ doc

ซึ่งการบันทึกมอบหมายงานในหน้าที่มีตัวอย่างบันทึกหลายแบบ คุณครูสามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยระยะเวลาที่รับส่งงานในหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ข้อ 8 (ไม่เกินสามสิบวัน) อ้างอิงจากระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับส่งมอบงานในหน้าที่ราชการ พ.ศ. 2524 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2524

ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างได้ที่ลิงก์ด้านล่าง

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา โรงเรียนทีปราษฎร์พิทยา หน่วยงานกรุงเทพมหานคร โรงเรียนสตรีพัทลุง โรงเรียนบ้านโนนยาง โรงเรียนนครสวรรค์
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

โหลดฟรี! ฟอนต์คัดลายมือไทย ตามเส้นปะ ใช้ทำแบบฝึกคัดลายมือ ก-ฮ

ฟอนต์คัดลายมือไทย

สวัสดีคุณครูทุกๆท่าน วันนี้แอดขอนำฟอนต์การคัดลายมือ นอกจากจะทำให้ผู้คัดเขียนหนังสือได้สวยงามแล้ว ยังเป็นการฝึกให้รู้จักรักษาความสะอาด และเขียนให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอีกด้วย เราจึงควรฝึกคัดลายมือให้ถูกวิธี

ฟอนต์คัดลายมือไทย
ฟอนต์คัดลายมือไทย

การคัดลายมือภาษาไทย เป็นแบบฝึกหัดการเขียนระดับเริ่มต้นจำเป็นต้องฝึกฝนตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อให้คุ้นเคยกับการเขียนที่สวยงามและเป็นระเบียบ เพราะเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การเขียนที่ถูกต้อง คล่องแคล่ว รวดเร็ว สวยงาม น่าอ่าน บางคนคิดว่าลายมือไม่สำคัญ มารยาทและวาทศิลป์ที่ดีก็เพียงพอที่จะเข้าใจผิดหากเขียนด้วยข้อคิดเห็นโครงเรื่องที่ดี คนอ่านอ่านไม่ออกเพราะอ่านไม่ออก เข้าใจผิดไม่รู้คุณค่าของงานเขียนว่ามันดีอย่างไร

ฟอนต์คัดลายมือไทย

จุดประสงค์ของการคัดลายมือ ดังนี้

  1. เพื่อฝึกการเป็นผู้มีสมาธิในการเขียนตัวอักษรไทย
  2. เพื่อให้เขียนตัวอักษรไทยได้ถูกต้องตามหลักวิธีการต่าง ๆ
  3. เพื่อให้รู้จักการจัดระเบียบ การเว้นวรรคและเว้นช่องไฟได้ประณีตและมีความสม่ำเสมอ ทำให้อ่านง่าย ดูสบายตา
  4. เพื่อให้รู้จักสังเกตแบบอย่างตัวอักษรที่ถูกต้องสวยงามและนำไปเป็นตัวอย่างในการเขียนได้ต่อไป
  5. เพื่อให้มีความภาคภูมิใจ ศรัทธาและรักการเขียนภาษาไทยอันเป็นมรดกและภาษาประจำชาติไทย

บทบาทสำคัญของโรงเรียน

คือ การที่เด็กๆ เรียนรู้ที่จะควบคุมตนเองด้วยการรับรู้ว่ามีอำนาจที่สูงกว่าคอยสอดส่องตรวจตราอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การคัดลายมือในโรงเรียนจึงเป็นการที่เรารู้จักจะควบคุม รวมไปถึงถูกประเมินว่าเราได้ทำตามระบบและมีวินัยมากน้อยแค่ไหนโดยที่เราเองก็ไม่รู้ตัว เช่นว่า ถ้าเราเชื่อฟัง เราก็จะ ‘มีวินัย’ คือรู้จักควบคุมตัวเองให้ไปฝึกการเขียน ซึ่งการเขียนนี้เราลงมือทำเองโดยที่ไม่ต้องมีใครมาคอยเฝ้าให้เราทำ

การควบคุมตนเอง ตั้งแต่อยู่ในห้องเรียนไปจนถึงในห้องนอน เราต้องควบคุมตัวเองให้ได้ แม้ในพื้นที่ส่วนตัวของเรา เราเรียนรู้องค์กรและระเบียบวินัย ผลลัพธ์ที่เราได้รับคือการยอมรับ หรือรางวัลคือสถานะที่ได้รับจากระบบนั้น เช่น เกรดดี หรือการยกย่อง หมายความว่าเรามีระเบียบวินัยและมีชื่อเสียงในสังคมนั้น

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา ฟอนต์ดอทคอม
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

เริ่มต้นขั้นตอน วิธีใช้ งาน Google Form ฉบับง่ายๆ

google form วิธีใช้

เริ่มแรกที่ต้องควรรู้ การที่จะเข้าไปใช้งาน google form ได้ ต้องมีบัญชีกูเกิลก่อน ซึ่งถ้าหากเป็นองค์กรต่างๆที่มีความสามารถในการจัดซื้อเช่าโดเมนจากบริการกูเกิล ตรงนั้นก็ไม่ต้องสมัคร สามารถใช้บัญชีกูเกิล ของทางองค์กรตนเองได้เลย แต่หากใครที่จะสมัคร Email ใหม่ ก็ต้องไปสมัครก่อนนะครับ

google form วิธีใช้
google form วิธีใช้

ขั้นตอนในการเข้าใช้งาน

ซึ่งถ้าเรามีบัญชีใหม่ที่เราสมัครมาใหม่เรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่ https://docs.google.com/forms และทำการลงชื่อเข้าใช้งาน จะปรากฏหน้าต่างแสดงแบบฟอร์มที่เรามีอยู่ ดังรูปภาพ

google form วิธีใช้

จากที่เห็นในรูปภาพด้านบน คือเรายังไม่มีแบบฟอร์มอยู่เลย หลังจากเข้ามาที่หน้าต่างแสดงแบบฟอร์มของเราแล้ว ให้กดปุ่ม เริ่มแบบฟอร์มใหม่ แล้วเริ่มขั้นตอนสร้างแบบฟอร์มได้เลย

เครื่องมือต่างๆ ในการใช้งาน

google form วิธีใช้

เนื่องจากความสามารถของปุ่มต่างๆ ใน แถบเมนูด้านบน ส่วนใหญ่จะถูกใช้ทำหลังจากสร้างแบบฟอร์มเสร็จ เพราะฉะนั้นตอนนี้ ผมจะมาพูดถึงบริเวณ แถบเครื่องมือด้านข้าง กันก่อน ซึ่งแถบเครื่องมือนี้มีไว้สำหรับสร้างคำถามต่างๆ ในแบบฟอร์ม ให้ดูตามลำดับลงมา จาก 1-6 ต่อไป

  1. เพิ่มคำถาม (Add question)
    ใช้สำหรับเพิ่มคำถามในรูปแบบต่างๆ คำถามแต่ละรูปแบบจะมีลักษณะและความสามารถที่แตกต่างกัน
  2. เพิ่มชื่อและรายละเอียด (Add title and description)
    สำหรับเพิ่มแถบป้ายชื่อพร้อมรายละเอียดที่ต้องการแจ้งให้ทราบ
    เหมาะสำหรับใช้ในการแบ่งส่วน เช่น ส่วนที่ 1: ข้อมูลส่วนตัว / ส่วนที่ 2: การประเมิน
  3. เพิ่มชื่อและรายละเอียด (Add details) การเพิ่มชื่อหัวข้อหรือรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับฟอร์ม
  4. เพิ่มรูปภาพ (Add image)
    สำหรับแทรกรูปภาพลงไปในแบบฟอร์ม
    สามารถแทรกได้จากรูปในเครื่องของเรา หรืออ้างอิงรูปที่มีอยู่บน Internet แล้วก็ได้
  5. เพิ่มรูปภาพ (Add image)
    สำหรับแทรกคลิปวิดีโอลงไปในแบบฟอร์ม
    สามารถเรียกวิดีโอจากบัญชี YouTube ของเรา หรือค้นหาจาก YouTube ผู้อื่นก็ได้
  6. เพิ่มส่วน (Add section)
    ใช้ในการแบ่งหน้า และยังสามารถใช้แยกส่วนของแบบสอบถามออกจากกันได้อีกด้วย
    ซึ่งในส่วนนี้จะอธิบายในหัวข้อต่อไป

ซึ่งรายละเอียดของแถบเครื่องมือส่วนนี้ทั้งหมด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก บทความเกี่ยวกับเครื่องมือการสร้างแบบฟอร์ม

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา ศูนย์คอมพิวเตอร์
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

ขั้นตอนการยื่น ต่อใบประกอบวิชาชีพครู แบบออนไลน์ ง่าย ได้ไว!!

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู แบบออนไลน์

สวัสดีคุณครูทุกๆท่าน วันนี้ผมขอนำ ขั้นตอน การต่อใบประกอบวิชาชีพ ออนไลน์ (กรณีประกอบวิชาชีพและมิได้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา) มาบอกต่อให้พวกเราได้ศึกษาและใช้งานต่อไป

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู แบบออนไลน์
ต่อใบประกอบวิชาชีพครู แบบออนไลน์

สมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าระบบ

1. เข้าไปที่เว็บ https://selfservice.ksp.or.th
2. สมัครสมาชิกก่อนถึงจะเข้าระบบได้ ซึ่งการสมัครสมาชิกก็กรอกข้อมูลลงไป และจะต้องแนบไฟล์รูปภาพ ถ่ายภาพถือบัตรประชาชน
3. เมื่อสมัครสมาชิกแล้ว สามารถเข้าสู่ระบบทำการต่อใบประกอบวิชาชีพได้
4. กดตรงคำว่าใบอนุญาต แล้วเลือก

ต่อใบประกอบวิชาชีพครู แบบออนไลน์
  • ขอต่อใบอนุญาตครูไทย
  • บันทึกข้อมูลคำขอต่ออายุใบอนุญาต – ครู

5. กรอกข้อมูลส่วนตัว อัพรูปถ่าย
6. ตรงสังกัด ให้เลือกผู้ประสงค์ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (ใครที่ประกอบวิชาชีพก็เลือกสังกัดตัวเองได้เลยครับ )
7. สถานะปัจจุบัน อันนี้เราเลือก มิได้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
8. มาตรฐานความรู้ ให้เลือก มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่าวุฒิอื่นที่คุรุสภารองรับ
***ข้อสังเกตุ. ถ้าคนที่เลือกประกอบวิชาชีพครู จะต้องอัพเกียรติบัตร 3 ใบ ตามหัวข้อที่เขากำหนดมาให้

9. ผู้มิได้ประกอบวิชาชีพครู ให้เลือก รอเข้ารับการอบรม
10. รับรองคุณสมบัติ ให้รับรองตนเอง (ก็คือตัวเราต้องเซ็นต์ชื่อกำกับด้วย)
11. แนบเอกสารบัตรประชาชน เซ็นสำเนาถูกต้อง และรูปถ่าย ยืนยันข้อมูล
12. รอตรวจสอบเอกสาร ปริ้นใบจ่ายเงินไปจ่ายที่เซเว่น หรือธนาคารกรุงไทย
13. จ่ายเงินเสร็จ รอตรวจสอบ หลังจากจ่ายเงินประมาณ 2 สัปดาห์ก็ปริ้นใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ได้
>> ระยะเวลาช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่ต่อใบประกอบ <<

14. ขั้นตอนนี้แหล่ะ คือต้องปริ้นใบอนุญาตอิเล็กทรอนิกส์ (ต้องบอกว่าปัจจุบันไม่มีบัตรที่เป็นแข็งแล้วนะครับ)

ยื่นต่ออายุใบประกอบวิชาชีพครูเข้าไปที่เว็บ https://selfservice.ksp.or.th

สมัคร Email ใหม่ เพื่อเริ่มต้นการใช้งานอย่างง่ายๆ ได้ที่นี่!!

สมัคร Email ใหม่

ก่อนอื่น การที่จะเข้าไป สมัครอีเมลล์ใหม่ ได้นั้น ต้องรู้จัก Google ก่อน ซึ่งถ้าหากเป็นบุคคลทั่วไปที่มีบัญชีอยู่แล้วก็จะสามารถดำเนินการใช้งานได้เลย แต่ถ้าใครที่ยังไม่มีหรือต้องการสมัครใช้งานใหม่ก็สามารถ ลงทะเบียน และใช้บัญชี Google ได้ฟรีๆเลย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยครับ

สมัคร Email ใหม่
สมัคร Email ใหม่

ขั้นตอนและวิธีการสมัครจีเมล์ใหม่ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการ Email หรือ อีเมล รายใหญ่ที่สุด เหนือสิ่งอื่นใด สามารถสมัครรับอีเมลฟรี ฟรีแน่นอน จึงขอนำวิธีสมัครใช้งานอีเมลของ Gmail แบบง่ายๆ มาฝากกัน

วิธีการ สร้างบัญชี สมัคร Gmail ใหม่

ขั้นตอนที่ 1 ไปที่หน้า สร้างบัญชี Gmail https://accounts.google.com/SignUp หรือหากเข้าไปยังหน้าหลักของ www.google.com ให้คลิกปุ่มด้านขวามือ “ลงชื่อเข้าสู่ระบบ” จากนั้นกดปุ่ม “สร้างบัญชี” เลือก ‘สำหรับการใช้งานส่วนตัวของฉัน’

สมัคร Email ใหม่

ขั้นตอนที่ 2 มาถึงหน้าสร้างบัญชี Google ให้กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วนดังนี้

  1. ชื่อ – นามสกุล
  2. ชื่อผู้ใช้ ซึ่งจะเป็นชื่อของ email ท่านเช่น name2566@gmail.com, name2567@gmail.com (ใส่แค่ชื่อผู้ใช้ไม่ต้องใส่ @gmail.com และชื่อ email ต้องเป็นอักษรอังกฤษ ตัวเลข และจุดเท่านั้น)
  3. รหัสผ่าน กำหนดได้อย่างน้อย 8 ตัว ประกอบไปด้วยตัวอักษรอังกฤษ ตัวเลขผสมกัน
  4. กดปุ่ม “ถัดไป“
สมัคร Email ใหม่

ขั้นตอนที่ 3 มาถึงหน้าที่ 2 ของขั้นตอนการสมัคร gmail ก็ให้กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนเช่นเดิม

  1. หมายเลขโทรศัพท์ ในข้อนี้จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ไม่บังคับ
  2. ที่อยู่อีเมลสำรอง ในข้อนี้จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ไม่บังคับเช่นกัน
  3. วัน / เดือน / ปี ของคุณ
  4. ระบุ เพศ ของคุณ
  5. กดปุ่ม “ถัดไป

ขั้นตอนสุดท้าย การยอมรับข้อตกลงในการเข้าใช้บัญชี Gmail โดยคุณต้องอ่านข้อตกลงทั้งหมด ปุ่ม “ฉันยอมรับ” จึงจะปรากฎขึ้นให้กดนั้นเอง

  • จากนั้นก็จะเข้าสู่หน้า Gmail ของเรา สามารถส่ง email หรือใช้สมัครบริการต่างๆ ได้เลย

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา ศูนย์คอมพิวเตอร์
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

google form คือ ??

google form คือ

มาครับ มาครับ วันนี้ครูไทยฟรีดอทคอม เรามาทำความรู้จักกับ Google Form แอพสร้างแบบฟอร์มที่สารพัดประโยชน์ ว่ามัน คือ อะไร??

google form คือ

ด้วยหลายๆคนอาจมีปัญหา การย้ายหรือจัดเก็บเอกสารจำนวนมากเป็นเรื่องของการตั้งคำถามพร้อมกับแบบสอบถาม ทำซ้ำหรือจดข้อมูล หรือแม้แต่มีงบประมาณจำกัดด้วยเวลา สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูล ปัญหาทุกๆคนจะหมดไป เมื่อคุณเลือกใช้ Google ฟอร์ม หนึ่งในบริการเว็บแอปพลิเคชันของกลุ่ม Google เอกสาร จะทำให้เราสามารถสร้างแบบสอบถามออนไลน์ได้หรือเพื่อการรวบรวมข้อมูลที่รวดเร็วโดยไม่ต้องชำระเงิน

Google Form เป็นส่วนหนึ่งในบริการของกลุ่ม Google Docs ที่ช่วยให้เราสร้างแบบสอบถามออนไลน์ หรือใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในการใช้งาน Google Form ผู้ใช้สามารถนำไปปรับประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบอาทิ เช่น การทำแบบฟอร์มสำรวจความคิดเห็น การทำแบบฟอร์มสำรวจความพึงพอใจ การทำแบบฟอร์มลงทะเบียน และการลงคะแนนเสียง เป็นต้น

ทั้งนี้การใช้งาน กูเกิ้ลฟอร์ม นั้น ผู้ใช้งานหรือผู้ที่จะสร้างแบบฟอร์มจะต้องมีบัญชีของ Gmail หรือ Account ของ Google เสียก่อน ซึ่งจะมีขั้นตอนการสมัครสมาชิกใช้งานแบบง่ายๆ ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานสร้างแบบฟอร์มผ่าน Web Browser ได้เลยโดยที่ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งในบทความนี้จะอธิบายถึงประโยชน์ อย่างละเอียด ชนิดที่ว่า… อ่านจนจบแล้วสามารถนำไปใช้งานจริงได้เลยทันที

ข้อดีของการทำแบบสอบถามออนไลน์

  • กระจายข้อมูลได้ทั่วถึง และสามารถเข้าถึงได้เร็วกว่า: การที่เราทำแบบสอบถามออนไลน์จะช่วยให้มีโอกาสได้ผู้เข้าร่วมแบบสอบถามที่ทั่วถึงกว่า ไม่ใช่แค่เพียงในพื้นที่ที่เราสามารถเดินแจกแบบสอบถามเท่านั้น อีกทั้งเรายังส่งแบบสอบถามให้ผู้ที่อยู่ภูมิภาคอื่นไปจนถึงผู้ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศสามารถทำแบบสอบถามให้เราได้ในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย
  • ประหยัดงบประมาณ: การพิมพ์แบบสอบถามในรูปแบบกระดาษย่อมมีค่าใช้จ่าย และแน่นอนว่า…ยิ่งเยอะยิ่งเห็นความแตกต่าง เพราะฉนั้นการทำแบบสอบถามในรูปแบบออนไลน์จะประหยัดงบประมาณได้เป็นจำนวนมาก
  • สามารถยกตัวอย่างให้เห็นรูปธรรมมากขึ้น: หากเราต้องการให้ผู้ตอบแบบสอบถามได้เห็นสิ่งที่เราต้องการจะสื่อมากขึ้น เช่น หากทำแบบประเมิณผลงานบางอย่างที่เป็นสิ่งของ ก็สามารถใส่ภาพหรือวิดีโอของสิ่งของนั้นๆ ลงไปในแบบสอบถามออนไลน์ได้เลย
  • ข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ: หากข้อมูลมีความสำคัญ การจัดเก็บเอกสารก็ยิ่งมีสำคัญตามไปด้วย การที่เอกสารข้อมูลถูกจัดอย่างเป็นระเบียบในบัญชี Google จะยิ่งง่ายต่อการค้นหา
  • สามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้สะดวก: เราสามารถนำผลลัพธ์จากการทำแบบสอบถามออนไลน์ไปใช้ต่อได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เพราะเราสามารถ Export ข้อมูลผลลัพธ์ออกมาเป็นไฟล์เพื่อนำไปใช้ต่อได้เลย
  • นอกจากเป็นแบบสอบถามยังใช้ทำการสอบย่อยแบบออนไลน์ได้อีกด้วย: เราสามารถใช้ Google Form เพื่อสร้างข้อสอบสำหรับการสอบย่อยได้ โดยที่ผู้ทำข้อสอบสามารถตรวจคำตอบได้ทันทีอีกด้วย

สิ่งที่ควรระมัดระวังมากๆในการใช้งาน

การลืมลงชื่อออก(Log-out) เมื่อทำการลงชื่อเข้าใช้(Log-in) ในคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เป็นสาธารณะ : เนื่องด้วยข้อมูลที่อยู่ใน Google Form ค่อนข้างสะดวก บางครั้งสิ่งนี้อาจทำให้เราต้องการดูความคืบหน้าของแบบสอบถามและจำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม เราอาจใช้งานจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สาธารณะ และอาจลืมออกจากระบบลงชื่อออก หากมีใครมาใช้งานต่อจากเรา ก็จะอยู่ในสถานะที่กำลังใช้งาน เพราะหากมีใครเข้าถึงบัญชีที่เราเปิดแบบฟอร์มไว้ ก็เท่ากับมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลอีเมลของเราได้ จนอาจก่อให้เกิดการโจรกรรม

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา ศูนย์คอมพิวเตอร์
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

มารู้จัก A-Level กันเถอะ คือ อะไร ต้องสอบวิชาไหนบ้าง? มีสอบเมื่อไร อยู่ได้กี่ปี

A-Level คือ

วันนี้เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ของนำเสนอข้อมูลการสอบ A-Level เป็นวิชาระดับชั้นมัธยมปลายในหลักสูตรอังกฤษ ข้อสอบ A-Level มีทั้งหมด 5 กลุ่มวิชา เพื่อเตรียมตัวสู่การเรียนระดับมหาวิทยาลัยของน้องๆ เช่น Top 10 UK University อย่าง UCL (University College London) ผลสอบปีล่าสุด#DEK66

A-Level คือ
A-Level คือ

A-Level คืออะไร?

A-Level คือ หลักสูตรการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของอังกฤษ มีรายวิชาให้เลือกเรียนมากกว่า 50 วิชา โดยน้องๆสามารถเลือกได้อย่างอิสระ มีทั้งในหมวดภาษาอังกฤษ ภาษาอื่นๆ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สังคม ศิลปะ และการศึกษาทั่วไป เป็นต้น โดยปีหนึ่งจะมีการสอบ เพียง 2 ครั้ง สำหรับศูน์สอบปกติจะสอบที่ ตึก Wave Place และศูน์สอบ British Council หากน้อง ๆ ได้เรียนและทำการสอบ A Level แล้ว จะทำให้ได้รับวุฒิการศึกษาเทียบเท่าระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) ในไทยครับ

มีวิชาอะไรบ้างที่ใช้สอบ?

การสอบ A level มีทั้งหมดประมาณ 55 วิชา โดยแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มวิชา ได้แก่

  1. กลุ่มวิชาภาษา (Language)
  2. กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (Humanities & Social Science)
  3. กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (Science)
  4. กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics)
  5. กลุ่มวิชาทักษะวิชาชีพ (Creative, Technical and Vocational)

สอบเมื่อไร สอบวันไหน?

ใน 1 ปี มีรอบสอบทั้งหมด 2 รอบ ดังนี้

รอบสอบรับสมัครสอบวันสอบประกาศผลสอบ
รอบที่ 1Dec-Early Febช่วงต้นปี May-JuneAugust
รอบที่ 2July-Early Augustช่วงปลายปี October-NovemberJanuary

น้อง ๆ สามารถติดตามข่าวสารต่าง ๆ ในการลงทะเบียนสอบได้ใน Instagram หรือ Facebook ได้เลยครับ พี่ ๆ จะคอย update ทุก ๆ ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ต่อน้อง ๆ ทางช่องทางดังกล่าว เพื่อให้เกิดความสะดวก และรวดเร็วต่อน้อง ๆ มากที่สุด

จะเรียนสอบได้กี่ปี?

การเรียน A Level ใช้ระยะเวลา 2 ปี ซึ่งนักเรียนจะต้องสอบ AS เมื่อจบปีแรก และสอบ A Level เมื่อจบปีที่สอง ก่อนจะเข้าเรียนหลักสูตรนี้ นักเรียนจะต้องเลือกเรียนวิชาที่มีความสัมพันธ์กันคือทางด้าน Science หรือทางด้าน Humanity ผลการสอบมี 6 ระดับคือ A*, A, B, C, D และ E แต่ Grade ที่ได้ทั้ง 6 ถือว่าสอบผ่านทั้งหมด มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่พิจารณารับผู้มีผลการสอบในระดับ C ขึ้นไป บางมหาวิทยาลัยอาจรับเฉพาะนักเรียนที่ได้คะแนนระดับ A และ B เท่านั้น ผลสอบ A Level นี้จะเป็นเกณฑ์ที่สถานศึกษาใช้ในการพิจารณารับนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี นักเรียนที่ต้องการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษจำเป็นต้องสอบราย วิชา A Level อย่างน้อย 3 วิชา

การสอบ A Level ในประเทศไทยสามารถสอบได้ในโรงเรียนนานาชาติที่มีรูปแบบการเรียนการสอนเป็นระบบอังกฤษ สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเหล่านี้ สามารถสอบที่โรงเรียนได้เลย

ส่วนน้อง ๆ ที่ไม่ได้เรียนอยู่ในระบบก็สามารถสอบ A Level ได้เช่นกันโดยน้อง ๆ สามารถสมัครสอบได้ที่

  1. British Council Thailand หรือ
  2. โรงเรียนนานาชาติที่เปิดรับสมัครสอบนักเรียนภายนอก (Private Candidate) เช่น Harrow International School Bangkok และ Satit Bilingual School of Rangsit University (SBS)

ค่าสอบ A-level ราคาต่อวิชา

ค่าสมัครสอบโดยทั่วไปราคา 6,226-9,190 บาทต่อวิชา ในกรณีที่สมัครสอบล่าช้ากว่ากำหนด ผู้สอบจะต้องชำระค่าลงทะเบียนล่าช้า ซึ่งราคาจะสูงกว่านี้เล็กนิดหน่อย

คลิกเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา จุฬาติวเตอร์
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ
สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

ดาวน์โหลดไฟล์ คู่มือ ระบบ e-gp ระยะที่ 5 ใช้ในระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 2565

คู่มือ e-gp 2565

ตามที่มติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ส่วนราซการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งลงประกาศจัดซื้อจัดจ้าง/ประกาศประกวดราคา ให้เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางในเว็บไซต์ คู่มือ ระบบ e-gp 2565 จึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำงาน ลิ้งดาวน์โหลดอยู่ด้านล่าง…VV

คู่มือ e-gp 2565
คู่มือ e-gp 2565

เริ่มแรก ซึ่งเป็นระบบที่ใช้งานเน้นให้หน่วยจัดซื้อมาประกาศจัดซื้อจัดจ้างบนเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลางเท่านั้น ไม่สามารถติดตามความคืบหน้าของการจัดซื้อจัดจ้างในระบบได้

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชน สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุภาครัฐที่มีความถูกต้องได้ด้วยความรวดเร็ว ครบถ้วนและทั่วถึง มีต้นแบบการประมูลด้วยอิเล็กทรอนิกส์ครบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและเชื่อมต่อข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ได้
  2. เพื่อให้ผู้บริหาร และส่วนราชการสามารถติดตามสถานะหรือความคืบหน้าของการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้
  3. เพื่อเร่งรัดให้ส่วนราชการ เร่งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ให้สามารถเบิกจ่ายเงินให้ เป็นไปตามแผนการใช้ จ่ายเงินของรัฐบาล

ประโยชน์ที่ได้รับ

e-GP คือ ศูนยก์ลางที่เป็นหน้าต่างในการบริการข้อมูล และดำเนินธุรกรรมทางการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

  • ความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
  • การปรับปรุงนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ\
  • กระตุ้นตลาดและเสริมสร้างขีดความสามารถของภาคเอกชน
  • ความสะดวก และความทั่วถึง อย่างเท่าเทียมกัน
คู่มือ e-gp 2565
  • งานซื้อ
  • การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ
  • เกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่น
  • เกณฑ์ราคาประกอบเกณ์อื่น+ฉบับย่อ
  • งานจ้างก่อสร้าง+ฉบับย่อ
  • งานจ้างก่อสร้าง
  • งานจ้างทำของ+จ้างเหมาบริการ + ฉบับย่อ
  • งานจ้างทำของ+จ้างเหมาบริการ
  • งานซื้อ+ฉบับย่อ
  • งานซื้อ
  • ตัวช่วย

ดาวน์โหลดไฟล์ตรงนี้ จบครบที่ลิ้งเดียว!!!!

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา กรรมกร สีกากี
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ
สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

วิธีการทำแฟ้มสะสมงาน portfolio ควร มีอะไรบ้าง

portfolio มีอะไรบ้าง

หากเราพูดถึงการสมัครเข้าเรียนต่อ การสมัครงาน การนำเสนอโปรไฟล์ตนเองเพื่อให้มีความน่าสนใจ สำหรับ portfolio ของผู้สมัครก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งทั้ง 10 หน้านั้นจะ มีอะไรบ้าง มหาวิทยาลัย หน่วยงาน บริษัท ฯลฯ มีสิทธิ์กำหนดหรือจะไม่กำหนดจำนวนหน้าของ Portfolio เลยก็สามารถทำได้เช่นกัน

portfolio มีอะไรบ้าง
portfolio มีอะไรบ้าง

Portfolio 10 หน้า ควรมีอะไรบ้าง

หน้าที่ 0 | หน้าปก (ไม่นับรวมใน 10 หน้า)
หน้าที่ 1 | ประวัติส่วนตัว หรือแนะนำตัว
หน้าที่ 2 | ประวัติการศึกษา
หน้าที่ 3 | เหตุผลที่เลือกเรียนในคณะ/สาขา/เลือกที่ทำงานแห่งนี้
หน้าที่ 4 – 7 | รางวัล ผลงาน และเกียรติบัตร
หน้าที่ 8 – 10 | กิจกรรม

ควรเตรียม Port อย่างไร

1.เตรียมส่วนสำคัญของ Portfolio
เตรียมส่วนสำคัญที่คาดว่าจะได้ใช้แน่นอนไว้ก่อน ส่วนไหนไม่ตรงตามมหาวิทยาลัยกำหนด ค่อยทำเพิ่มเติมทีหลัง

2.เตรียม Portfolio รูปแบบเต็ม
เตรียม Portfolio ในแบบของเราไว้ก่อนได้เลย หากศึกษารายละเอียดระเบียบการแล้วมหาวิทยาลัยกำหนดรายละเอียดของ Portfolio มาให้ด้วย ก็ปรับเนื้อหาให้ตรงตามที่กำหนด

หน้าปก
– หน้าปกจะไม่นับเป็น 1 ใน 10 หน้าตามที่มหาวิทยาลัยจะกำหนด
– ทำให้ดูโดดเด่น ดึงความสนใจ
– เห็นแล้วรู้ว่าจะสมัครคณะอะไร
– มีรายละเอียดครบถ้วน ชื่อ-สกุล / โรงเรียน / คณะ / สาขา / มหาวิทยาลัยที่ยื่น

ประวัติส่วนตัว (Resume)
– มีข้อมูลพื้นฐานครบถ้วน
– เน้นความสามารถพิเศษ ทักษะที่เอื้อต่อการเรียนในคณะที่ยื่น งานอดิเรก
– รูปภาพที่ชัดเจน

ประวัติการศึกษา
– โรงเรียนที่จบมาในแต่ละระดับชั้น อาจแยกแค่ ม.ต้น ม.ปลาย มหาวิทยาลัยตามสาขาตนเอง ก็ได้
– ผลการศึกษา หรือเกรดเฉลี่ย (GPAX)

เหตุผลที่เลือกเรียนในคณะ/สาขานี้/เลือกทำงานที่บริษัท
– เขียนเป็นเรียงความแบบย่อ
– ความยาวไม่เกิน 1 หน้า A4
– เน้นแสดงถึงความตั้งใจ และทัศนคติที่ดีต่อคณะ ต่อที่ทำงาน
– บางโครงการจะกำหนดหัวข้อมาให้ด้วย ศึกษาได้จากระเบียบการ

กิจกรรม รางวัล ผลงาน และเกียรติบัตร
– เน้นผลงานที่โดดเด่น ได้รับรางวัล
– ถ้ามีเยอะ คัดเฉพาะที่โดดเด่น ไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งหมด
– ถ้าคัดเฉพาะที่เกี่ยวกับคณะที่สมัครได้จะดีมาก

หากน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวทำพอร์ตแล้วยังคิดอะไรไม่ออกพี่ก็มี Template สร้างสรรค์ไอเดีย ทำ Portfolio สวย ๆ เก๋ ๆ สไตล์ตามคณะที่อยากเข้า แจกไอเดีย 5 สไตล์ หรือจะไปปรับเสริมเติมแต่ง ปรับสไตล์ใหม่ให้เข้ากับตัวเอง เข้ากับคณะอื่น ๆ ได้เลย

ฟรี Template คลิกดาวน์โหลดได้เลย

เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ขอขอบคุณเว็บไซต์ tcasportfolio และ ทรูปลูกปัญญา

แจกเอกสารเนื้อหา แนวข้อสอบครูผู้ช่วย ภาค ก 2566 เกณฑ์ใหม่!!

แนวข้อสอบครูผู้ช่วย 2566

สวัสดีว่าที่คุณครูผู้ช่วยทุกๆคน วันนี้ครูไทยฟรีดอทคอม ขอนำเสนอ แจกเอกสารเนื้อหา แนวข้อสอบครูผู้ช่วย ภาค ก 2566 เกณฑ์ใหม่!! ที่หลายท่านสามารถนำไปศึกษาและสอบบรรจุเข้ารับราชการครู ในตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ประจำปี 2566 นี้ได้

แนวข้อสอบครูผู้ช่วย 2566
แนวข้อสอบครูผู้ช่วย 2566

พรบ.การศึกษาแห่งชาติ

การศึกษาแห่งชาติ ไฟล์ที่ 1

การศึกษาแห่งชาติไฟล์ที่ 2

การศึกษาแห่งชาติ ไฟล์ที่ 3

แนวข้อสอบการศึกษาแห่งชาติ

พรบ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย

ดาวน์โหลดเนื้อหา พรบ.

พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547

2. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2551

3. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2553

4. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2562

พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ.2551

พรบ.การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ.2551

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เนื้อหาหลักสูตรแกนกกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย

ดาวน์โหลด

แจก เฉลยข้อสอบโอเน็ตปี 66 ครบทุกวิชา!!

เฉลยข้อสอบโอเน็ตปี 66

ประกาศผลสอบไปแล้วสำหรับการสอบโอเน็ตของปี 2565 ซึ่งประกาศ 2566 วันนี้แอดของแจกเฉลยข้อสอบ O-NET 2566 ปีการศึกษา 2565 ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้แล้วที่นี่

เฉลยข้อสอบโอเน็ตปี 66
เฉลยข้อสอบโอเน็ตปี 66

ทาง สทศ. ได้นำข้อสอบและเฉลยคำตอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ ม.3 เผยแพร่ทาง เว็บไซต์ NIETS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ต้นสังกัดและโรงเรียนได้นำไปใช้ในวางแผนและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนรวมถึงยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดียิ่งขึ้น

โหลดได้แล้วครับ ข้อสอบ o-net ป.6 ม.3 ปีการศึกษา 2565 ที่ใช้สอบเมื่อวันที่ 11 – 12 กุมภาพันธ์ 2566 ท่านสามารถดาวน์โหลด เฉลยข้อสอบโอเน็ตปี 66 ได้ที่นี่ ทั้ง ข้อสอบ ㆍ-net ป.6 และ ม.3 พร้อมเฉลย ตามลิงก์ด้านล่างเลยครับ ตามที่ สทศ.ได้ดำเนินการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565 ซึ่งชั้น ป.6 สอบวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 และชั้น ม.3 สอบวันที่ 12 กมภาพันธ์ 2566 นั้น ในการนี้ สทศ. ได้นำข้อสอบและเฉลยคำตอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ ม.3 เผยแพร่ทางเว็บไซต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ต้นสังกัดและโรงเรียนได้นำไปใช่ในวางแผนและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน รวมถึงยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดียิ่งขึ้น ไปโหลดกันเลยครับครู

ข้อสอบ 0-net ป.6 ปีการศึกษา 2565 ที่ใช้สอบเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566

ข้อสอบ 0-net ม.3 ปีการศึกษา 2565 ที่ใช้สอบเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566

ขอบคุณเนื้อหาจาก สทศ.

ผู้จัดทำและเรียบเรียง เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม
และขอขอบคุณที่มา ครูอัพเดทดอทคอม
เชิญติดตามได้ที่ เพจครูไทยฟรีดอทคอม ข่าวสารความเคลื่อนไหววงการศึกษา ข่าวสารการศึกษา แจกสื่อการเรียนการสอน แผนการสอน หลักสูตร ตัวชี้วัด ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน วิจัย วิทยฐานะ การสอบบรรจุรับราชการ
สอบบรรจุครู ข้อสอบ ใบงาน กิจกรรมการเรียนการสอน ส่งเสริมการเรียนรู้ สื่อมัลติมีเดียครูยุค IT บทความ เทคนิคการสอน ไฟล์งานต่างๆ

ฝากแชร์หน้าเว็บ และฝากกดไลด์ กดติดตามเพจให้หน่อยนะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้กัน มีมาแจกเรื่อยๆครับ
เพียงทำตามกติกาง่าย ดังนี้
กดไลค์เพจกดติดตาม แชร์โพสต์นี้ แบบเปิดสาธารณะ กดดาวน์โหลดได้เลย🙏🏻 ขอบคุณครับ

เกณฑ์สอบครูผู้ช่วย 2566 สังกัด สพฐ. ประกาศแล้ววันนี้!!

เกณฑ์สอบครูผู้ช่วย 2566

เกณฑ์การสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุแต่งตั้ง ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ประจำปี พ.ศ. 2566 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเกณฑ์สอบครูผู้ช่วย 2566 สังกัด สพฐ . เกณฑ์การสอบแข่งขัน เพื่อบรรจแต่งตั้ง ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ประจำปี พ.ศ.2566 สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เกณฑ์สอบครูผู้ช่วย 2566
เกณฑ์สอบครูผู้ช่วย 2566

การสอบแข่งขัน ตำแหน่งครูผู้ช่วย

เกณฑ์สอบครูผู้ช่วย 2566

คุณสมบัติผู้สมัคร
– คุณสมบัติทั่วไปตาม ม. 30
– คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานตำแหน่ง

หลักสูตร

เกณฑ์สอบครูผู้ช่วย 2566
  • ภาค ก ความรู้ความสามารถทั่วไป (200 คะแนน)
  • ภาค ข มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ (200 คะแนน)
  • ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง วิชาชีพและการปฏิบัติงานในสถานศึกษา (100 คะแนน)
    (สัมภาษณ์ + สาธิตการสอน = 45 นาที)<<<< ไม่มีการกำหนดสอบในรอบปัจจุบัน

ดาวน์โหลดรายละเอียดเกณฑ์การสอบครูผู้ช่วย 2566

ล่าสุด!! สรุปพรบการศึกษาแห่งชาติ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ปัจจุบัน พร้อมข้อสอบ

สรุปพรบการศึกษาแห่งชาติ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

สวัสดีครับเว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม วันนี้ผมก็ขอนำเสนอเนื้อหา พรบ.การศึกษาแห่งชาติ มี กี่ ฉบับ ได้แก่ สรุปพรบการศึกษาแห่งชาติ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ปีล่าสุด 2562 สามารถนำไปอ่านสอบบรรจุข้าราชการได้ โดยมีเนื้อหาสาระดังนี้

สรุปพรบการศึกษาแห่งชาติ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
สรุปพรบการศึกษาแห่งชาติ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มีทั้งหมด 4 ฉบับ แต่มีการปรับปรุงไป 3 ฉบับ ได้แก่

1.พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ประกาศใช้ 19 สิงหาคม 2542 (ฉบับที่ 1)
2.พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2545 ประกาศใช้ 19 ธันวาคม 2545 (แก้ไขฉบับที่ 1)
3.พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) (พ.ศ.2553) ประกาศใช้ 22 กรกฎาคม 2553 (แก้ไขฉบับที่ 2)
4.พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 4) (พ.ศ.2562) ประกาศใช้ 1 พฤษภาคม 2562 (การแก้ไขฉบับที่ 3 เนื่องจากมีการแยก สกอ ออกไปจากกระทรวงศึกษาธิการ)

สรุปสาระสำคัญ (ผมจะเน้นนำเอามาตราที่สำคัญๆเท่านั้นมาบอกต่อนะครับ)

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ เป็นกฎหมายแม่บททางการศึกษา มี 9 หมวด 1 บทเฉพาะกาล 78 มาตรา
หมวดที่ 1 บททั่วไป
หมวดที่ 2 สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา
หมวดที่ 3 ระบบการศึกษา
หมวดที่ 4 แนวการจัดการศึกษา
หมวดที่ 5 การบริหารและการจัดการศึกษา
หมวดที่ 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา
หมวดที่ 7 ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
หมวดที่ 8 ทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา
หมวดที่ 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
บทเฉพาะกาล

การศึกษา หมายความว่า กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม

การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง การศึกษาระดับก่อนอุดมศึกษา

การศึกษาตลอดชีวิต หมายความว่า การศึกษาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระ บบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

สถานศึกษา หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอำนาจหน้าที่หรือมีวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา

มาตรฐานการศึกษา หมายความว่า ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง

การประกันคุณภาพภายใน หมายความว่า การประ เมินผลและ การติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรือ โดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษานั้น (สพฐ)

การประกันคุณภาพภายนอก หมายความว่า การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดย สมศ หรือบุคคลที่ สมศ.รับรอง(สมศ.ย่อมาจาก สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา)

ผู้สอน หมายความว่า ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ

ครู หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและ
การส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน

คณาจารย์ หมายความว่า บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัย
ในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐและเอกชน

ผู้บริหารสถานศึกษา หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาแต่ละแห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน

บุคลากรทางการศึกษา หมายความว่า ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา รวมทั้ง ผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัด กระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ

กระทรวง หมายความว่า กระทรวงศึกษาธิการ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้

มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข

หลักการจัดการศึกษา มี 3 ประการ

1. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
2. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
3. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

มาตรา 8  การจัดการศึกษาให้ยึดหลักดังนี้

  1. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
  2. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
  3. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

มาตรา 9 การจัดระบบโครงสร้างและกระบวนการจัดการศึกษา โดยยึดหลักดังนี้ (เอก/จาย/มาตร/เสริม/ระดม/ร่วม)

  1.  มีเอกภาพด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
  2. มีการกระจายอำนาจไปสู่เขตพื้นที่การศึกษา สถานศึกษา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
  3. มีการกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภทการศึกษา
  4. มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาและการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
  5. ระดมทรัพยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใช้ในการจัดการศึกษา
  6.  การมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น

มาตรา 10  การจัดการศึกษา บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี ที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย / การจัดการศึกษาสำหรับคนพิการให้จัดตั้งแต่แรกเกิดหรือพบความพิการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

มาตรา 11 บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแล ได้รับการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมาย (ซึ่งเป็นหน้าที่หลักของผู้ปกครอง (ฝ่าฝืนมีโทษ)

มาตรา 13 บิดา มารดา หรือผู้ปกครองมีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ ดังต่อไปนี้

  1. การสนับสนุนจากรัฐ ให้มีความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดู และการให้การศึกษาแก่บุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแล
  2. เงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของบุตรหรือบุคคลซึ่งอยู่ในความดูแลที่ครอบครัวจัดให้ ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายกำหนด
  3. การลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด

มาตรา 15 การจัดการศึกษา มี 3 รูปแบบ คือ (*สถานศึกษาอาจจัดรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือทั้งสามรูปแบบก็ได้)

  1. การศึกษาในระบบ (Formal Education) การศึกษาในสถานศึกษาทั่วไป (มีเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน)
  2. การศึกษานอกระบบ (non-formal Education) การศึกษานอกโรงเรียน (มีความยืดหยุ่น จัด/เวลา/เมิน/)
  3. การศึกษาตามอัธยาศัย (Informal Education) หรือ Home School (สนใจ/ศักยภาพ)

มาตรา 16 การศึกษาในระบบมีสองระดับ คือ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการศึกษาระดับอุดมศึกษา

การศึกษาชั้นพื้นฐาน ได้แก่ ก่อนประถม ประถม และมัธยม
อุดมศึกษา ได้แก่ ต่ำกว่าปริญญา

มาตรา 17 ให้มีการศึกษาภาคบังคับจำนวน 9 ปี โดยให้เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดเข้าเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจนอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีการนับอายุให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง (ย่าง7ย่าง16จบคับ9)

ดาวน์โหลดเนื้อหาเพิ่มเติมได้ ไฟล์ PDF (มีข้อสอบพร้อมเฉลย)

เข้าใจง่าย ! แนวทางการใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2566 ถูกต้องตามวัตถุประสงค์

แนวทางการใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2566

สวัสดีครับ วันนี้เว็บไซต์ครูไทยฟรีดอทคอม ขอนำ แนวทางการใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2566 มาบอกต่ออธิบายการนำงบประมาณไปใช้งานอย่างไรให้ถูกต้อง และผู้ที่กำลังหาคำตอบ เช่น เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ประถมกี่บาท ปฐมวัยกี่บาท แล้วกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน 5 กิจกรรมมีอะไรบ้าง

แนวทางการใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2566
แนวทางการใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2566

ถ้าหากพูดถึงงบประมาณที่ได้จัดสรรของปี 2566 นี้แล้ว ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำคู่มือแนวทางการใช้เงินอุดหนุนรายหัว นักเรียน ปีงบประมาณ 2566 ดำเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานของปีงบประมาณล่าสุดนี้

ในส่วนเงินกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพที่ทาง กระทรวงศึกษาธิการได้จัดสรรงบประมาณให้แก่สถานศึกษาสำหรับบริหารจัดการกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนได้เองตามวัตถุประสงค์ใน 5 กิจกรรม โดยในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนดังกล่าว สถานศึกษาต้องจัดกิจกรรมให้ครบทั้ง 5 กิจกรรม ซึ่งให้ดำเนินการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง กิจกรรมการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เช่น กิจกรรมที่เพิ่มเติมจากการเรียนคอมพิวเตอร์พื้นฐานให้ดำเนินการอย่างน้อย 40 ชั่วโมง/ปี/คน ดังนี้

  1. กิจกรรมวิชาการ เป็นกิจกรรมที่สถานศึกษาจัดเพิ่มเติมนอกจากการเรียนปกติในชั้นเรียน เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมนักเรียนที่มีศักยภาพในการเรียนรู้สู่ความเป็นเลิศ และแก้ไขข้อบกพร่องของนักเรียนที่มีศักยภาพในการเรียนรู้ต่ำให้มีศักยภาพสูงขึ้นเน้นกิจกรรมที่เสริมสร้างจินตนาการให้โอกาสนักเรียนได้เรียนรู้ได้แก่ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านประชาธิปไตย เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะและการเรียนรู้ โดยพัฒนาความสามารถด้านการสื่อสาร ด้านการคิดและการพัฒนากรอบความคิดแบบเปิดกว้าง (Growth Mindset)ด้านการแก้ปัญหา ด้านการใช้ทคโนโลยีและทักษะการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และเพื่อเสริมสร้างทักษะการทำงาน การดำรงชีพ และทักษะชีวิต ตอบสนองความสนใจความถนัดและความต้องการของผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกการทำงานทักษะทางอาชีพ ทรัพย์สินทางปัญญา อยู่อย่างพอเพียงและมีวินัยทางการเงิน พัฒนาความสามารถด้านการใช้ทักษะชีวิตและสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย รวมทั้งการส่งเสริมการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ
  2. กิจกรรมคุณธรรม/ลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด เป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงามและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะที่ดี โดยปลูกฝังค่านิยมและจิตสำนึกการทำประโยชน์ต่อสังคม มีจิตสาธารณะและการให้บริการด้านต่าง ๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวมปลูกฝังความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม (มีวินัย ซื่อสัตย์ สุจริตเสียสละ อดทน มุ่งมั่นในการทำงาน ความกตัญญ) ปลูกฝังความภาคภูมิใจในความเป็นไทยและหวงแหนสมบัติของชาติ โดยมีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
    • กิจกรรมคุณธรรม จริยธรรม จิตอาสา ได้แก่ ค่ายเด็กดีของชุมชนค่ายรักษ์โลก ค่ายรักษ์สัตว์ ค่ายยุวชนคนดี ค่ายสันติวิธี กิจกรรมอาสาพัฒนา กิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมหลัก 12 ประการ เป็นต้น
    • ลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด/ผู้บำเพ็ญประโยชน์ เป็นกิจกรรมภาคปฏิบัติในการเรียนลูกเสือ/เนตรนารี/ยุวกาชาด/ผู้บำเพ็ญประโยชน์ โดยให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงฝึกทักษะการจัดการเผชิญสถานการณ์การใช้ชีวิตร่วมกันเป็นหมู่คณะ ได้แก่ การเดินทางไกล การอยู่ค่ายพักแรม การผจญภัย (ไต่เขา ปีนต้นไม้ ฯลฯ)
  3. ทัศนศึกษา โดยเน้นภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของชาติและท้องถิ่น และหรือทัศนศึกษาตามแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ตรงให้กับนักเรียนที่เพิ่มเติมจากการเรียนในห้องเรียน เพื่อให้นักเรียนมีความรู้และประสบการณ์อย่างกว้างขวาง โดยกำหนดให้ดำเนินการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  4. การบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เป็นกิจกรรมการให้สถานศึกษาจัดทำโครงการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ICT) ในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เป็นกิจกรรมการให้บริการ ICT หรือบริการการเรียนรู้แก่นักเรียนเพิ่มเติมจากการเรียนคอมพิวเตอร์พื้นฐานตามหลักสูตรปกติ เช่น กิจกรรมการเรียนรู้เข้าค่ายพัฒนาตนเองด้าน ICT กิจกรรมการออกแบบสร้างสรรค์ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ กิจกรรมการให้บริการสืบค้นความรู้ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต และกิจกรรมการให้บริการคอมพิวเตอร์ในการจัดทำสื่อรายงาน การนำเสนอข้อมูล เป็นต้น
  5. กิจกรรมการจัดการเรียนการสอนทางไกสในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COMD-19 หรือโรคอุบัติใหม่ หรือเกิดสถานการณ์ที่สถานศึกษาไม่สามารถจัดการเรียนการสอนตามปกติได้ เช่น การผลิตสื่อการเรียนการสอน ใบงาน แบบฝึกหัด และค่าใช้จ่ายในการติดตามและเยี่ยมบ้านนักเรียน เพื่อเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงค่าพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สามารถนำไปใช้ในการจัดหาอินเทอร์เน็ตซิม หรือชั่วโมงอินเทอร์เน็ต สำหรับนักเรียน เพื่อใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นต้น
    อนึ่ง หากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโรคอุบัติใหม่ หรือเกิดสถานการณ์ที่สถานศึกษาไม่สามารถจัดการเรียนการสอนตามปกติได้ สถานศึกษาสามารถพิจารณาเลือกจัดกิจกรรม โดยบูรณาการกิจกรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ กรณีสถานศึกษามีความจำเป็นจะจัดซื้อวัสดุเวชภัณฑ์ จะต้องมีงบประมาณเพียงพอไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งบประมาณในการดำเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน สถานศึกษาดำเนินการปรับแผนปฏิบัติการประจำปี/แผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

งบประมาณพัฒนากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนต่อนักเรียน 1 คน ดังนี้

แนวทางการใช้เงินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 2566

ดาวน์โหลดคู่มือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ !!